Skip to content

TOPPIC TIME

เวลาของเรื่องเล่า

  • TOPPIC TIME
  • NEWS
    • POLITICS
    • EDU-ART
    • LOCAL
    • OVERSEA
    • SPORT
  • ECONOMY
  • ENTERTAIN
    • CELEB
    • MUSIC
    • MOVIE
    • FOREIGN
  • LIFESTYLE
    • BEAUTY
    • FASHION
    • HEALTH
    • FOOD
    • TRAVEL
    • HOME
    • IT
    • AUTOMOTIVE
  • SECRET
    • HORO
    • MYSTIC
    • LOTTO
  • FOOD
  • TRAVEL
  • HEALTH
  • SPORT
  • SUSTAIN
    • PEOPLE
    • CAREER
    • CORPORATE
    • ENVIROMENT
  • CLIP

10 เรื่องต้องรู้ ‘ฉงชิ่ง’ พลิกโฉมสู่ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

10 เรื่องต้องรู้ 'ฉงชิ่ง' พลิกโฉมสู่ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

10 เรื่องต้องรู้ 'ฉงชิ่ง' พลิกโฉมสู่ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

หากพูดถึง “ฉงชิ่ง” มหานครที่ใหญ่ที่สุดในประเทศจีน มีเนื้อที่ราว 82,400 ตารางกิโลเมตร เกือบเท่ากับภาคกลางของประเทศไทย มีประชากรกว่า 32 ล้านคน หลายคนคงทราบกันดีว่า มหานครแห่งนี้เป็นเมืองเศรษฐกิจทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน แต่รู้หรือไม่ว่าเมื่อ 10 ปีก่อน เมืองเศรษฐกิจของแผ่นดินใหญ่แห่งนี้เคยประสบปัญหามลพิษอากาศอย่างมาก มีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากอุตสาหกรรม การเผาไหม้ถ่านหินและเชื้อเพลิงชีวภาพ ทำให้รัฐบาลเร่งออกนโยบายทุกทางเพื่อแก้ปัญหา ที่รู้จักกันก็คือ สงครามปกป้องท้องฟ้าสีคราม รวมถึงนโยบายการส่งเสริมพลังงานสะอาด

เมื่อเร็วๆนี้ สมาคมด้านพลังงานของเมืองฉงชิ่ง ร่วมมือกันจัดการประชุมและศึกษาดูงานด้านการพัฒนาเมือง โดยได้เชิญนักวิชาการจากสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย หรือ TEI ซึ่งมี คุณเบญจมาส โชติทอง และคุณวิลาวรรณ น้อยภา หลบอากาศร้อนจากเมืองไทยเข้าร่วมประชุมครั้งนี้ พร้อมได้เรียบเรียงข้อมูลเกี่ยวกับ Green Chongqing มาฝาก

เปิด 10 เรื่องต้องรู้ Green Chongqing การพัฒนานครฉงชิ่งสู่ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

ฉงชิ่ง
10 เรื่องต้องรู้ ‘ฉงชิ่ง’ พลิกโฉมสู่ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

1. ภูมิทัศน์สวยงาม ต้นไม้ใหญ่และพื้นที่สีเขียวสองข้างถนนถูกจัดการเป็นอย่างดี สัมผัสได้ตั้งแต่ออกเดินทางจากสนามบินเจียงเป่ยไปตลอดทาง

2. บทบาทองค์กรทางสังคม ซึ่งเป็นคำที่จีนใช้เรียกองค์กรพัฒนาเอกชนหรือ NGO ได้เข้ามามีส่วนช่วยเฝ้าระวังมลพิษ และทำงานร่วมกับบริษัทเอกชนมากขึ้น รวมทั้งกระตุ้นเยาวชนและสังคมให้เรียนรู้และปกป้องธรรมชาติ เช่น กรณีศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติ การอนุรักษ์นกอินทรีย์

3. ขยายชุมชนเกษตรอินทรีย์ โดยนำองค์ความรู้สมัยใหม่เข้ามาใช้ในการทำเกษตร มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์สมุนไพร เชื่อมโยงกับการท่องเที่ยวเชิงนิเวศในเขตชนบท สร้างงานให้กับคนในท้องถิ่น โดยได้รับการส่งเสริมจากภาครัฐ อย่างกรณีเมืองดาชู

4.ป้ายทะเบียนรถยนต์แยก 2 สี ชัดเจน ให้เข้าใจว่าป้ายทะเบียนสีเขียวคือรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หรือ EV ซึ่งมีประมาณ 20% ในเมืองนี้และกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ส่วนป้ายทะเบียนสีน้ำเงินคือรถที่ใช้เชื้อเพลิงแบบเดิม

5. พัฒนาเทคโนโลยีระบบชาร์ตสำหรับรถยนต์ EV และขยายจุด/สถานีชาร์ตแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ EV ซึ่งมีอยู่ทั่วไปในเขตเมือง แม้ยังมีจำกัดในเขตพื้นที่ชนบท

6. สถานีสลับแบตเตอรี่สำหรับรถแท็กซี่ EV ใช้เวลาไม่ถึง 1 นาที น่าตื่นเต้นมากสำหรับยุคนี้ (ต่อไปน่าจะขยายเพิ่มและพบเห็นได้ทั่วไป)

7. เกิดธุรกิจสตาร์อัพใหม่ ๆ ด้านธุรกิจพลังงานสะอาด โดยการสนับสนุนจากรัฐบาล บางบริษัทเพิ่งก่อตั้งได้ 4-5 ปี สามารถขยายงานได้แบบก้าวกระโดด

8. การให้บริการแบบครบวงจรของบริษัทผลิตอุปกรณ์ด้านพลังงานแสงอาทิตย์ ตั้งแต่การขออนุญาตติดตั้ง การติดตั้ง ระบบการติดตามแบบเรียลไทม์ บริการทำความสะอาดแผงโซลาร์ ฯลฯ แต่ก็ยังขาดความรับผิดชอบเรื่องการจัดการซากอุปกรณ์หลังใช้งาน

9. พัฒนาระบบเก็บพลังงาน ในรูปแบบต่าง ๆ ทั้งในระดับอุตสาหกรรม ครัวเรือน และเพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานนอกสถานที่ เช่น การแคมปิ้ง

10. ความร่วมมือวิจัยด้านพลังงาน เทคโนโลยี และนวัตกรรม ของนักวิชาการ ช่วยขับเคลื่อนการลงทุนของภาคเอกชน เช่นที่ Chongqing University มีงานวิจัยเกี่ยวกับพลังงานสะอาด การรีไซเคิลวัสดุ พลังงานจากขยะ

นักวิชาการ TEI เล่าต่อว่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่นครฉงชิ่งและรัฐบาลจีนเร่งส่งเสริมพลังงานสะอาดเพื่อแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ และการบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน ภายในปี 2060 ด้วย เห็นได้ชัดจากการเดินหน้าส่งเสริมและกระตุ้นภาคเอกชนปรับตัวด้านธุรกิจพลังงาน ซึ่งหากเปรียบกับประเทศไทยที่ตั้งเป้าจะบรรลุเป้าหมายนี้ภายในปี 2030 ก่อนจีน แต่มาตรการด้านพลังงานสะอาดของเรายังมีน้อย นอกจากนี้ ได้ทราบจากภาคเอกชนในการประชุมที่ฉงชิ่งเป็นเสียงเดียวกัน ว่าความก้าวหน้าในการพัฒนาด้านพลังงานสะอาดทุกวันนี้ เป็นเพราะนโยบายและมาตรการส่งเสริมจากรัฐบาล

อย่างไรก็ดี แม้การพัฒนาด้านพลังงานสะอาดของจีนรุดหน้าไปมาก ได้มีการพัฒนาโครงสร้างทางพลังงานที่ไม่ใช่เชื้อเพลิงฟอสซิลกระจายทั่วประเทศ แต่ปัจจุบันจีนยังใช้แหล่งพลังงานส่วนใหญ่จากถ่านหินกว่า 50% และน้ำมันดิบ เกือบ 20% ขณะเดียวกันจีนมีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงเปลี่ยนผ่านนี้ ซึ่งสังคมคนรุ่นใหม่เปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด มีการพัฒนาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ทำให้เกิดการบริโภคและการใช้พลังงานสูงขึ้น ซึ่งที่นักวิชาการจีนให้ข้อมูลว่า รัฐบาลจีนจะยังคงผลิตพลังงานจากแหล่งฟอสซิลต่อไป!!! เพื่อรักษาความมั่นคงด้านพลังงานไฟฟ้าของประเทศเอาไว้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Tags: ฉงชิ่ง สิ่งแวดล้อม

Continue Reading

Previous: ‘ออกัส วชิรวิชญ์’ ยอมรับแชตจริง หลังโดน ‘กันสมาย’ ตีแผ่พฤติกรรม!!
Next: ผื่นแดง เป็นขุย แสบคัน ระวังอาจเป็น ‘โรคเซ็บเดิร์ม’ ภาวะเรื้อรังที่ทำเสียเซลฟ์

Most Viewed Posts

  1. ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ กำลังใจล้น ลือถูกมือดีปล่อยคลิปหลุด ภาพลับ!!
  2. คนเราขาดอากาศหายใจหรือสมองขาดออกซิเจนได้กี่นาที? คนเราขาดอากาศหายใจหรือสมองขาดออกซิเจนได้กี่นาที?
  3. ‘เจ้าหญิงดิสนีย์’ กับประวัติ 11 เจ้าหญิง แรงบันดาลใจของเด็กผู้หญิง!!
  4. 'เบียร์ เดอะวอยซ์' เคลื่อนไหว ต้นสังกัด 'ท็อป Lazyloxy' เตรียมดำเนินคดีชาวเกรียน!  ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ เคลื่อนไหว ต้นสังกัด ‘ท็อป Lazyloxy’ เตรียมดำเนินคดีชาวเกรียน! 
  5. ก่อนคลิปว่อน!! ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ เคยโพสต์เป็นลางบางอย่าง

You may have missed

เสน่ห์ ‘ละคร’ ยุคเก่า ‘หนึ่งในร้อย’ ปลุกย้ำความทรงจำวันวาน

เสน่ห์ ‘ละคร’ ยุคเก่า ‘หนึ่งในร้อย’ ปลุกย้ำความทรงจำวันวาน

อยากทำอะไร ?? ใน “ฤดูหนาว”

อยากทำอะไร ?? ใน “ฤดูหนาว”

เมืองที่เป็นมิตรอันดับ 4 ของโลก ‘กรุงเทพมหานคร’ รู้สึกอย่างไร เมื่อต้องใช้ชีวิตที่นี่??

เมืองที่เป็นมิตรอันดับ 4 ของโลก ‘กรุงเทพมหานคร’ รู้สึกอย่างไร เมื่อต้องใช้ชีวิตที่นี่??

จะรู้สึกอย่างไร?? เมื่อได้สัมผัสพลังแห่งศรัทธา ‘ประเพณีไหลเรือไฟ’

จะรู้สึกอย่างไร?? เมื่อได้สัมผัสพลังแห่งศรัทธา ‘ประเพณีไหลเรือไฟ’

ติดต่อโฆษณา TOPPIC Time โทร. 064-562-4193 | DarkNews by AF themes.