Skip to content

TOPPIC TIME

เวลาของเรื่องเล่า

  • TOPPIC TIME
  • NEWS
    • POLITICS
    • EDU-ART
    • LOCAL
    • OVERSEA
    • SPORT
  • ECONOMY
  • ENTERTAIN
    • CELEB
    • MUSIC
    • MOVIE
    • FOREIGN
  • LIFESTYLE
    • BEAUTY
    • FASHION
    • HEALTH
    • FOOD
    • TRAVEL
    • HOME
    • IT
    • AUTOMOTIVE
  • SECRET
    • HORO
    • MYSTIC
    • LOTTO
  • FOOD
  • TRAVEL
  • HEALTH
  • SPORT
  • SUSTAIN
    • PEOPLE
    • CAREER
    • CORPORATE
    • ENVIROMENT
  • CLIP

เด็กเหนื่อยง่าย-โตช้า เสี่ยง! ‘โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด’

เด็กเหนื่อยง่าย-โตช้า เสี่ยง! 'โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด'

เด็กเหนื่อยง่าย-โตช้า เสี่ยง! 'โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด'

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

เด็กเหนื่อยง่าย-โตช้า เสี่ยง! “โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด” แพทย์วิมุตเตือน อันตรายที่พ่อแม่ต้องใส่ใจ ก่อนกระทบชีวิตลูกในระยะยาว…

เชื่อว่าคุณแม่ที่กำลังตั้งท้อง ก็หวังให้เจ้าตัวน้อยในครรภ์โตมาแข็งแรง และคลอดออกมามีร่างกายครบสมบูรณ์เหมือนคนทั่วไป แต่ในเด็กบางคน มองภายนอกก็ดูปกติดี แต่กลับมีอาการผิดปกติ เช่น มีอาการเหนื่อยหอบ หรือมีน้ำหนักตัวผิดปกติไม่สมกับวัย ซึ่งสร้างความกังวลให้ผู้ปกครองอย่างมาก จริง ๆ แล้ว นี่อาจเป็นสัญญาณว่าเจ้าตัวน้อยเป็น “โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด” ภาวะผิดปกติของโครงสร้างหัวใจที่พบได้ในเด็กแรกเกิด 8 ใน 1,000 คน ที่หากไม่รักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ อาจทำให้เด็กโตมาไม่แข็งแรงและกระทบการใช้ชีวิตในระยะยาว

วันนี้ TOPPIC Time ได้รับข้อมูลจาก นพ.สุวาณิช เตรียมชาญชูชัยอายุรแพทย์ผู้ชำนาญการโรคหัวใจ ศูนย์หัวใจและหลอดเลือด รพ.วิมุต จะมาไขข้อสงสัยเรื่อง “โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด” พร้อมบอกแนวทางรักษา เพื่อให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจและพร้อมรับมือกับโรคของเจ้าตัวน้อย…

“โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด” อันตรายของเจ้าตัวน้อย

เด็กเหนื่อยง่าย-โตช้า เสี่ยง! 'โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด'
เด็กเหนื่อยง่าย-โตช้า เสี่ยง! ‘โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด’

“โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด” (Congenital Heart Disease) คือความผิดปกติของโครงสร้างของหัวใจหรือหลอดเลือดหัวใจ ที่เกิดในกระบวนการสร้างหัวใจในช่วงอายุครรภ์ประมาณ 5 – 12 สัปดาห์ “โดยโรคนี้แบ่งได้เป็นสองประเภท คือ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดเขียว คือเลือดดำผสมกับเลือดแดงตั้งแต่เกิด กลุ่มนี้มักมีอาการรุนแรงตั้งแต่เด็ก เช่น เหนื่อยหอบมากขณะดูดนมแม่ โตช้า และเหนื่อยง่ายตอนออกกำลังกาย อีกประเภทคือ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิดไม่เขียว ส่วนใหญ่เกิดจากผนังหัวใจรั่ว แต่เลือดแดงกับเลือดดํายังไม่ผสมกัน กลุ่มนี้อาจมีอาการเมื่อโตขึ้นมา เช่น เหนื่อยง่าย ออกกําลังกายไม่ไหว มีน้ำหนักหรือส่วนสูงต่ำกว่าเกณฑ์” นพ.สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย อธิบาย

เป็นโรค-ใช้ยา-ดื่มสุรา เสี่ยงทารกเป็น “โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด”

ปัจจัยเสี่ยงของคุณแม่ที่ทำให้เด็กเป็น “โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด” ได้แก่ กลุ่มคุณแม่อายุมาก ทำให้มีความเสี่ยงที่ลูกเกิดมาเป็นโรคทางพันธุกรรม เช่น โรคดาวน์ซินโดรม ส่งผลให้เด็กเจริญเติบโตช้า มีความบกพร่องทางสติปัญญา และเสี่ยงโรคทางหัวใจประมาณ 40% ต่อมาคือกลุ่มคุณแม่ที่เป็นโรคระหว่างตั้งครรภ์ เช่น

1.โรคเบาหวาน ที่ทำให้ทารกตัวโต เพิ่มความเสี่ยงภาวะหัวใจพิการแต่กำเนิดหรือหลอดเลือดหัวใจสลับขั้ว

2.โรคไข้หวัดใหญ่ ที่เมื่อเด็กโตขึ้นจะมีความเสี่ยงโรคหัวใจมากกว่าเด็กปกติถึงสองเท่า

3.โรคหัดเยอรมัน ที่จะเพิ่มความเสี่ยงของการเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดของทารก

4.กลุ่มคุณแม่ที่ได้รับสารเคมีหรือได้รับยาระหว่างการตั้งครรภ์ ไม่ว่าจะเป็นยาฆ่าเชื้อ ยาปฏิชีวนะ ยากันชัก ก็อาจมีผลต่อเด็กในครรภ์ คุณแม่ที่อยู่ระหว่างการตั้งครรภ์จึงต้องปรึกษาแพทย์ในการใช้ยาอยู่เสมอ และในกลุ่มสุดท้ายคือ

5.กลุ่มคุณแม่ที่สูบบุหรี่ ดื่มสุรา หรือใช้สารเสพติดขณะตั้งครรภ์ ที่อาจส่งผลต่อหัวใจและอวัยวะต่าง ๆ ของเด็กในครรภ์ได้

“โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด” รักษาช้า โตไปสุขภาพแย่

หากผู้ปกครองสังเกตว่าทารกดูดนมแม่แล้วเหนื่อยหอบ ตัวเขียว น้ำหนักตัวน้อยเกินไป หรือหายใจไม่ทัน มีโอกาสเป็นโรคหัวใจแต่กำเนิดได้ ควรรีบพาลูกไปพบแพทย์ โดยการวินิจฉัยโรคจะแบ่งออกเป็นสองแบบ คือ กรณีที่เด็กยังอยู่ในครรภ์ และคุณแม่อยากตรวจสอบความเสี่ยงของลูก แพทย์จะทำอัลตราซาวด์หัวใจควบคู่ไปกับการดูว่าน้ำหนักตัวเด็กสัมพันธ์กับอายุหรือไม่ ส่วนกรณีที่เด็กออกมาแล้ว แพทย์จะตรวจคลื่นหัวใจ (Echocardiogram) และเอกซเรย์ปอด หรือใช้การ CT Scan หรือ MRI เพื่อตรวจสอบการทํางานของหัวใจเพิ่มเติม นพ.สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย อธิบายถึงการรักษาว่า ” “โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด” สามารถรักษาให้หายได้ ยิ่งตรวจพบไวก็รักษาหายเร็ว ในบางรายอาจไม่มีอาการอันตรายและหายได้เองเมื่อทารกโตขึ้น ส่วนบางคนอาจต้องใช้ยารักษา แต่ถ้าในกรณีที่เด็กมีภาวะเขียว ส่วนใหญ่ต้องรักษาด้วยการสวนหัวใจหรือผ่าตัดเพื่อปิดรูรั่วหัวใจ ซึ่งปัจจุบันทางการแพทย์สามารถใช้อุปกรณ์สวนเข้าไปปิดรูรั่วได้เลย ไม่จําเป็นต้องเปิดอกเพื่อทำการผ่าตัดใหญ่”

“โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด” ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของเด็กอย่างมาก ผู้ปกครองจึงควรหมั่นสังเกตสุขภาพของเด็ก ๆ อยู่เสมอ เมื่อพบอาการผิดปกติจะได้พาไปพบแพทย์ทันที ถ้าพบว่าลูกของเราเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ก็ไม่อยากให้กังวลมากเกินไป เพราะบางครั้งสามารถรักษาให้หายได้ ด้านคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องคอยดูแลสุขภาพของเจ้าตัวน้อยให้ดี ใส่ใจเรื่องอาหารการกินเป็นพิเศษ พาเด็ก ๆ ไปรับวัคซีนอยู่เสมอ และระวังเรื่องฟันผุที่อาจทำให้ติดเชื้อลงไปในหัวใจได้ ถ้าดูแลได้ดีสม่ำเสมอก็จะช่วยให้สุขภาพหัวใจของลูก ๆ ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และเติบโตสู่วัยผู้ใหญ่ได้อย่างแข็งแรง” นพ.สุวาณิช เตรียมชาญชูชัย กล่าวทิ้งท้าย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Tags: สุขภาพ โรคหัวใจพิการแต่กำเนิด โรงพยาบาลวิมุต

Continue Reading

Previous: ‘คิวคิว อิงค์อัณณ์’ โชว์แต่งเพลงแรก NO TIME (พูดไม่ได้)
Next: ทั่วไทยยังมี ‘ฝนตกหนัก’ ระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าหลาก

Most Viewed Posts

  1. ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ กำลังใจล้น ลือถูกมือดีปล่อยคลิปหลุด ภาพลับ!!
  2. คนเราขาดอากาศหายใจหรือสมองขาดออกซิเจนได้กี่นาที? คนเราขาดอากาศหายใจหรือสมองขาดออกซิเจนได้กี่นาที?
  3. ‘เจ้าหญิงดิสนีย์’ กับประวัติ 11 เจ้าหญิง แรงบันดาลใจของเด็กผู้หญิง!!
  4. 'เบียร์ เดอะวอยซ์' เคลื่อนไหว ต้นสังกัด 'ท็อป Lazyloxy' เตรียมดำเนินคดีชาวเกรียน!  ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ เคลื่อนไหว ต้นสังกัด ‘ท็อป Lazyloxy’ เตรียมดำเนินคดีชาวเกรียน! 
  5. ก่อนคลิปว่อน!! ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ เคยโพสต์เป็นลางบางอย่าง

You may have missed

เสน่ห์ ‘ละคร’ ยุคเก่า ‘หนึ่งในร้อย’ ปลุกย้ำความทรงจำวันวาน

เสน่ห์ ‘ละคร’ ยุคเก่า ‘หนึ่งในร้อย’ ปลุกย้ำความทรงจำวันวาน

อยากทำอะไร ?? ใน “ฤดูหนาว”

อยากทำอะไร ?? ใน “ฤดูหนาว”

เมืองที่เป็นมิตรอันดับ 4 ของโลก ‘กรุงเทพมหานคร’ รู้สึกอย่างไร เมื่อต้องใช้ชีวิตที่นี่??

เมืองที่เป็นมิตรอันดับ 4 ของโลก ‘กรุงเทพมหานคร’ รู้สึกอย่างไร เมื่อต้องใช้ชีวิตที่นี่??

จะรู้สึกอย่างไร?? เมื่อได้สัมผัสพลังแห่งศรัทธา ‘ประเพณีไหลเรือไฟ’

จะรู้สึกอย่างไร?? เมื่อได้สัมผัสพลังแห่งศรัทธา ‘ประเพณีไหลเรือไฟ’

ติดต่อโฆษณา TOPPIC Time โทร. 064-562-4193 | DarkNews by AF themes.