Skip to content

TOPPIC TIME

เวลาของเรื่องเล่า

  • TOPPIC TIME
  • NEWS
    • POLITICS
    • EDU-ART
    • LOCAL
    • OVERSEA
    • SPORT
  • ECONOMY
  • ENTERTAIN
    • CELEB
    • MUSIC
    • MOVIE
    • FOREIGN
  • LIFESTYLE
    • BEAUTY
    • FASHION
    • HEALTH
    • FOOD
    • TRAVEL
    • HOME
    • IT
    • AUTOMOTIVE
  • SECRET
    • HORO
    • MYSTIC
    • LOTTO
  • FOOD
  • TRAVEL
  • HEALTH
  • SPORT
  • SUSTAIN
    • PEOPLE
    • CAREER
    • CORPORATE
    • ENVIROMENT
  • CLIP

หัวใจเต้นช้า ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม!

หัวใจเต้นช้า ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม!

หัวใจเต้นช้า ภัยเงียบที่ไม่ควรมองข้าม!

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

“หัวใจเต้นช้า” โรคหัวใจที่มักถูกมองข้าม หลายคนเข้าใจผิดว่า โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะมีแค่แบบเต้นเร็วเท่านั้น จริงๆ แล้ว ยังมีแบบเต้นช้าที่อันตรายไม่แพ้กัน แต่หากผู้ป่วยได้รับการรักษาอย่างถูกต้องก็จะสามารถรักษาให้หายได้…

TOPPIC Time ได้รับข้อมูลจาก ผู้ช่วยศาสตราจารย์นายแพทย์ศราวุธ ลิ้มประเสริฐ อายุแพทย์โรคหัวใจและหลอดเลือดเฉพาะทางด้านสรีระไฟฟ้าหัวใจ โรงพยาบาลเวชธานี อธิบายว่า หัวใจเต้นช้า (Bradycardia) เป็นภาวะที่หัวใจเต้นในอัตราช้ากว่าปกติ โดยมักจะน้อยกว่า 60 ครั้งต่อนาที เมื่อหัวใจเต้นช้าเกินไป ย่อมส่งผลให้เลือดที่ส่งออกจากหัวใจมีปริมาณลดลง จนทำให้การส่งออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอวัยวะสำคัญอย่างสมองและหัวใจ โดยทั่วไปมักจะไม่ก่อให้เกิดอาการผิดปกติใด ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ที่มีสุขภาพแข็งแรง แต่หากเกิดในผู้ป่วยหรือผู้สูงอายุมักก่อให้เกิดอาการผิดปกติ

อาการผิดปกติที่พบได้ในผู้ป่วยที่มีหัวใจเต้นช้า

1. เหนื่อยง่าย
2. เจ็บหน้าอก
3. เพลีย
4. ใจสั่น
5. วิงเวียนศีรษะ
6. เป็นลมหมดสติ
7. สับสน หลงลืมง่าย เสียสมาธิง่าย

ภาวะหัวใจเต้นช้า มักพบในผู้มีอายุมากกว่า 65 ปี แต่อาจจะพบได้ในผู้ป่วยอายุน้อยหากมีโรคร่วมหรือโรคทางพันธุกรรมบางอย่าง นอกจากนี้ยังมีสาเหตุที่พบได้บ่อย ได้แก่ ความสมดุลเกลือแร่ในร่างกายผิดปกติ, การติดเชื้อโรคหรือการอักเสบบางอย่าง, โรคหลอดเลือดหัวใจรีบ, โรคหัวใจรูมาติก, การเสื่อมของกลุ่มเซลล์กระตุ้นการเต้นของหัวใจ, การนำกระแสไฟฟ้าหัวใจผิดปกติ, และภาวะแทรกซ้อนจากยา การผ่าตัด หรือการฉายรังสี

อย่างไรก็ตาม มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องตรวจหาสาเหตุให้แน่ชัด เนื่องจากหากทราบว่าภาวะหัวใจเต้นช้าเกิดจากสาเหตุที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ย่อมทำให้ภาวะหัวใจเต้นช้าหายไปได้เช่นกัน โดยแนวทางการตรวจวินิจฉัยโรคหัวใจเต้นช้า แพทย์จะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย ตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ และตรวจเลือดต่าง ๆ เพื่อหาสาเหตุในการเกิดหัวใจเต้นช้า อีกทั้งยังอาจมีการตรวจพิเศษอื่น ๆ ทางระบบหัวใจ ซึ่งขึ้นกับภาวะของผู้ป่วยด้วย

หากตรวจวินิจฉัยแล้วพบว่าภาวะหัวใจเต้นช้าเกิดจากโรคหรือภาวะที่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ผู้ป่วยจะได้รับการรักษาโรคหรือภาวะดังกล่าว ซึ่งจะทำให้หัวใจกลับมาเต้นในอัตราปกติได้ แต่หากภาวะหัวใจเต้นช้าเกิดจากโรคหรือภาวะที่ไม่สามารถรักษาได้ หรือไม่สามารถรักษาให้หายขาด จะมีความจำเป็นต้องรักษาด้วยการฝังเครื่องกระตุ้นหัวใจ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดอาการของผู้ป่วยหรือลดโอกาสเกิดหัวใจเต้นผิดจังหวะรุนแรงต่อไป

การรักษาด้วยการฝังเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ เป็นหัตถการเพื่อฝังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เข้าไปในผนังหน้าอกใต้ผิวหนังของผู้ป่วย เพื่อกระตุ้นจังหวะการเต้นของหัวใจ โดยส่งสัญญาณไฟฟ้าไปยังหัวใจห้องที่ทำงานผิดปกติ สัญญาณไฟฟ้าจะช่วยให้หัวใจเต้นเร็วพอที่จะสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงร่างกายและอวัยวะส่วนอื่น ๆ ได้มากเพียงพอ

การเตรียมตัวก่อนใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ

ก่อนทำหัตถการใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ ผู้ป่วยจะต้องงดยาตามที่แพทย์แนะนำ, งดน้ำและอาหารก่อนเข้ารับการรักษา 8 ชั่วโมง, ผู้ป่วยจะได้รับการโกนขนบริเวณหน้าอกข้างที่จะใส่เครื่องกระตุ้นหัวใจ โดยส่วนมากแพทย์จะนิยมใส่เครื่องกระตุ้นใจในแขนข้างที่ผู้ป่วยไม่ถนัด

การปฏิบัติตัวหลังใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ

เมื่อใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจเข้าไปในร่างกายแล้ว ผู้ป่วยต้องพักฟื้นในโรงพยาบาลปะมาณ 1 – 2 วัน และในช่วง 7 วันแรกไม่ควรยกแขนด้านที่ใส่เครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจขึ้นสูงเหนือไหล่, หลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ใช้แรงมาก, หลีกเลี่ยงการถู กด หรือเกาบริเวณแผล, หลีกเลี่ยงการนวดหน้าอก,ห้ามยกของหนักเป็นเวลาอย่างน้อย 1 เดือน, ในระหว่างพักฟื้นหากมีอาการผิดปกติ เช่น ใจสั่น หน้ามืดเป็นลม เหนื่อยหอบผิดปกติ สะอึกตลอดเวลา ควรรีบพบแพทย์เพื่อหาสาเหตุและตรวจสอบการทำงานของเครื่องและควรมาพบแพทย์ตามนัด เพราะจะได้รับการตรวจเช็คเครื่องอย่างสม่ำเสมอ

ทั้งนี้ ความเสี่ยงและภาวะแทรกซ้อนที่อาจพบได้ ได้แก่ ลมรั่วในเยื่อหุ้มปอดจากปลายเข็มที่ใช้เป็นตัวนำทางสายไฟโดนยอดปอด ซึ่งพบได้น้อย, ในระยะสั้น แผลบริเวณใส่เครื่องอาจมีอาการบวมช้ำ โดยเฉพาะผู้ป่วยที่ได้รับยาต้านเกล็ดเลือด หรือยาป้องกันเลือดแข็งตัวร่วมด้วย, สายกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจเลื่อน หรือหลุดออกจากตำแหน่ง สามารถพบได้น้อยเนื่องจากมีการตรวจสอบหลายขั้นตอนก่อนเชื่อมต่อสายเข้ากับเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจ, การติดเชื้อของเครื่องกระตุ้นไฟฟ้าหัวใจและสายไฟ มักมีปัจจัยเสี่ยงทางโรคประจำตัวบางอย่างที่เพิ่มความเสี่ยงนี้ ซึ่งสามารถป้องกันได้โดยการใช้ยาปฏิชีวะนะก่อนและหลังทำหัตถการ, ขณะที่ความเสี่ยงในระยะยาวต้องอาศัยการสังเกตร่วมกันระหว่างผู้ป่วยและแพทย์ เพื่อความรวดเร็วในการตรวจพบและแก้ไขปัญหาหากมีภาวะแทรกซ้อนเกิดขึ้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Tags: สุขภาพ หัวใจเต้นช้า โรคหัวใจ

Continue Reading

Previous: เตรียมช้อป! Golden Goose มาไทยแล้ว เปิดทั้งสโตร์และคาเฟ่สุดคูลใจกลางกรุง
Next: ทุเรียนฟีเวอร์! ชวนลิ้มรสความอร่อยกับเมนูสุดครีเอทจากราชาผลไม้

Most Viewed Posts

  1. ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ กำลังใจล้น ลือถูกมือดีปล่อยคลิปหลุด ภาพลับ!!
  2. คนเราขาดอากาศหายใจหรือสมองขาดออกซิเจนได้กี่นาที? คนเราขาดอากาศหายใจหรือสมองขาดออกซิเจนได้กี่นาที?
  3. ‘เจ้าหญิงดิสนีย์’ กับประวัติ 11 เจ้าหญิง แรงบันดาลใจของเด็กผู้หญิง!!
  4. 'เบียร์ เดอะวอยซ์' เคลื่อนไหว ต้นสังกัด 'ท็อป Lazyloxy' เตรียมดำเนินคดีชาวเกรียน!  ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ เคลื่อนไหว ต้นสังกัด ‘ท็อป Lazyloxy’ เตรียมดำเนินคดีชาวเกรียน! 
  5. ก่อนคลิปว่อน!! ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ เคยโพสต์เป็นลางบางอย่าง

You may have missed

เสน่ห์ ‘ละคร’ ยุคเก่า ‘หนึ่งในร้อย’ ปลุกย้ำความทรงจำวันวาน

เสน่ห์ ‘ละคร’ ยุคเก่า ‘หนึ่งในร้อย’ ปลุกย้ำความทรงจำวันวาน

อยากทำอะไร ?? ใน “ฤดูหนาว”

อยากทำอะไร ?? ใน “ฤดูหนาว”

เมืองที่เป็นมิตรอันดับ 4 ของโลก ‘กรุงเทพมหานคร’ รู้สึกอย่างไร เมื่อต้องใช้ชีวิตที่นี่??

เมืองที่เป็นมิตรอันดับ 4 ของโลก ‘กรุงเทพมหานคร’ รู้สึกอย่างไร เมื่อต้องใช้ชีวิตที่นี่??

จะรู้สึกอย่างไร?? เมื่อได้สัมผัสพลังแห่งศรัทธา ‘ประเพณีไหลเรือไฟ’

จะรู้สึกอย่างไร?? เมื่อได้สัมผัสพลังแห่งศรัทธา ‘ประเพณีไหลเรือไฟ’

ติดต่อโฆษณา TOPPIC Time โทร. 064-562-4193 | DarkNews by AF themes.