Skip to content

TOPPIC TIME

เวลาของเรื่องเล่า

  • TOPPIC TIME
  • NEWS
    • POLITICS
    • EDU-ART
    • LOCAL
    • OVERSEA
    • SPORT
  • ECONOMY
  • ENTERTAIN
    • CELEB
    • MUSIC
    • MOVIE
    • FOREIGN
  • LIFESTYLE
    • BEAUTY
    • FASHION
    • HEALTH
    • FOOD
    • TRAVEL
    • HOME
    • IT
    • AUTOMOTIVE
  • SECRET
    • HORO
    • MYSTIC
    • LOTTO
  • FOOD
  • TRAVEL
  • HEALTH
  • SPORT
  • SUSTAIN
    • PEOPLE
    • CAREER
    • CORPORATE
    • ENVIROMENT
  • CLIP

เผยเคยคิดสั้น! ‘ดีเจมะตูม’ บวชเรียนแล้ว ลุยเดินหน้าต่อ

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

ไม่สนคนด่าบวชแก้บาป “มะตูม” ซีรีส์ใหม่ปรับปรุงเพื่อเดินต่อ เคยคิดสั้นหลังพายุชีวิตโถมใส่…

ดีเจฝีปากแกร่งอย่าง “มะตูม เตชินท์” ที่ชีวิตขับเคลื่อนด้วยการด่า ด่าจนดัง เกาะคนดังจนมีชื่อเสียง ทำให้เกิดแฮชแท็ก #ตูมสนิท พร้อมเปิดมรสุมครั้งใหญ่ของชีวิตกับการจัดปาร์ตี้วันเกิดจนติดโควิด-19 โดนด่า โดนประณาม จนอยากจบชีวิตในคืนวันที่ 29 มกราคม โดยงานนี้ดีเจมะตูมได้เปิดใจแบบไม่มีกั๊ก

ความคิดนี้มันเกิดขึ้นตอนไหน ?
ดีเจมะตูม : ตูมหนักมากๆ อย่างที่ทุกคนทราบ ช่วงสถานการณ์ที่ตูมติดโควิดเมื่อต้นปี 2021 เป็นคนในวงการคนแรกที่ติดโควิดแล้วก็น่าจะหนักมากด้วยกับข่าวตอนนั้น น่าจะมีตูมคนเดียวในวงการที่ติดโควิดไปด้วยแล้วโดนคดีความไปด้วย เหมือนวันนึงเราไปทำงาน ไปถ่ายรายการ ไปจัดรายการตามปกติ วันรุ่งขึ้นเราจัดปาร์ตี้ ถ้ดมาปุ๊บเรามีผลออกมาว่าเป็นบวก ชีวิตเรากลายเป็นอีกคนเลย จากคนในวงการ ต้องโดนออกมาจากวงการ แล้วไปสู่กระบวนการของกฎหมาย ตอนนั้นทุกสิ่ง ทุกอย่างมันถาโถมเข้ามาแบบใช้คำว่าตั้งรับไม่ทัน

29 มกราคม โทรหาพี่ บอกว่าอยากฆ่าตัวตาย ?
ดีเจมะตูม : แค่บอกว่าพี่หนิงหนูไม่อยากรู้สึกอะไรอีกแล้ว มันหนักไปแล้ว ทุกๆ การดังของโทรศัพท์เรามันเหมือนเป็นเสียงนรก คือมันเหมือนคนจมน้ำ แต่ไม่ยอมตายสักที เรานอนไม่ได้ เรากินไม่ได้ เราไม่รู้เลยว่าทันจะเกิดอะไรขึ้น ที่มันหนักจริงๆ คือจากที่มันมีข่าวคลัสเตอร์ลามไปอีกงานนึง แล้วก็มีคนต้องเดือดร้อนจากเหตุการณ์ครั้งนี้ เรื่องคอมเมนต์ไม่ต้องพูดถึง แม่ตูมแบบโดนหนักมาก นี่เป็นสิ่งที่เป็นตราบาปในใจอยู่เลยคือ ทำให้คนเกือบทั้งประเทศไล่แม่ อยากให้แม่เราไปตาย

มะตูมรักแม่มาก ?
ดีเจมะตูม : มันมีคอมเมนต์นึงมันเอาออกจากหัวไม่ได้เลย คือ ก็เพราะคันคะเยอที่อยากจะจัดปาร์ตี้ทำให้คนอื่นต้องซวยกันไปหมด ขอให้โควิดลงปอดมึง แล้วแม่ของมึง แล้วหายไปจากโลกใบนี้ ตูมหายไปจากโลกใบนี้โอเคคุณอาจจะพอใจ แต่ว่าแม่ตูมไม่สมควร เขาเป็นผู้หญิงที่ดีครับ

มะตูมคิดว่าตอนนั้นเราเป็นอาชญากรสังคมไหม ?
ดีเจมะตูม : ใช่ครับ ตูมคิดว่าตูมเป็นคนเลว

อยากจะจบชีวิตในวันที่ 29 มกราคม ?
ดีเจมะตูม : วันที่ 29 เป็นวันที่คดีความเริ่มหนักขึ้น เป็นคดีที่คนทั้งประเทศให้ความสนใจ ปกติตูมจะเจอนักข่าวบันเทิง เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ตูมต้องเจอนักข่าวอาชญากรรม เจอนักข่าวที่ตูมไม่รู้จักมาก่อน และการตอบคำถามของตูมในตอนนั้นเราไม่ได้ไปพูดไปขอโทษสังคมในฐานะดีเจมะตูม เราไปในฐานะประชาชนคนนึงที่ทำผิดต่อสังคมแล้วต้องขอโทษ มันทำให้เรารู้สึกว่านี่อาจจะเป็นวันสุดท้ายแล้วแหละที่ได้นั่งอยู่หน้ากล้อง

พูดว่าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว แล้วถ้าเกิดอะไรขึ้นฝากดูแม่ด้วยนะ ?
ดีเจมะตูม : คำว่าดีเจมะตูมเสิร์ชเข้าไปในกูเกิล ผลงานสร้างชื่อ คือติดโควิด สิ่งที่ทำมาทั้งหมดในวงการไม่ว่าจะเป็นผลงานด้านไหนก็ตาม มันหายไปหมด แล้วมันมีคำว่าคลัสเตอร์มะตูม, มะตูมซูเปอร์สเปรดเดอร์ ชื่อนี้มันจะติดตัวเราไปตลอด เพราะฉะนั้นตูมคิดว่าอนาคตในวงการมันจบแน่นอน

เขาพูดคำว่าความตายเท่านั้นจะชดใช้ความผิดนี้ ?
ดีเจมะตูม : ใช่ครับ คือตอบอยากให้พี่หนิงรู้ไว้ว่าที่พี่พยายามช่วยตูม เอาธรรมะเข้ามาหาตูม มันสายไปแล้วนะพี่

แสดงว่าความคิดที่ไม่อยากอยู่บนโลกนี้มันเกิดขึ้นมาพักนึงแล้ว ?
ดีเจมะตูม : ณ ตอนนั้นแค่มีความรู้สึกว่าทำยังไงก็ได้ให้ฉันไม่ต้องรู้สึกทรมานแบบนี้ได้ไหม ตั้งแต่ตูมเกิดมาจนอายุ 30 กว่า สิ้นมกราคมปีที่แล้ว ตูมใช้คำว่านั่นคือช่วงเวลาที่ทุกข์และตกต่ำที่สุดในชีวิตของตูมแล้ว ตูมไม่เคยสัมผัสความทุกข์ทรมานขนาดนั้นมาก่อน มันเหมือนคนตายทั้งเป็นอยู่ตลอดเวลา

สิ่งที่ทำให้มะตูมมีสติขึ้นมาคือน้ำพริกกะปิฝีมือแม่ ?
ดีเจมะตูม : ภาพที่ตูมเห็นผู้หญิงคนนึงยืนอยู่หน้าห้อง ICU แล้วมีกระจกใสๆ แม่ยกมือไหว้พยาบาลขอให้ลูกได้เอาข้าวกล่องนี้ไปกินในห้องได้ไหม มันเป็นภาพที่แบบเรานั่งอยู่บนเตียงแต่เรามองเห็นแม่เราแบบจะเอามาให้ได้ ซึ่งตูมไม่รู้ว่าในนั้นคืออะไร พยาบาลยอม พอเขาเอาเข้ามา กล่องข้าวอันนั้นมันคือกล่องเดียวเหมือนกับตอนไฮสคูลเลย ณ วินาทีนั้นเรารู้สึกว่าเราจะเป็นอะไร เราจะติดโควิด คนจะเกลียดเราทั้งประเทศยังไง เรายังคือมะตูมลูกของแม่หญิงที่เขาอยากจะดูแลเราไปตลอด ในกล่องข้าวมันมีโน้ตเล็กๆ เขียนไว้ว่า จำได้ไหมนี่คือสิ่งที่แม่เคยทำให้ ดีใจจังที่มีโอกาสได้ทำอีกครั้ง ตูมไม่ได้รู้เรื่องความกตัญญูตอนที่ตูมบวชนะครับ ตูมรู้วันนั้น ตูมรู้ว่าสิ่งที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุดในชีวิตมนุษย์ ของบุตรคือบุพการี ตูมรู้เลยว่าไม่ว่าตูมจะเป็นคนแบบไหนในสังคม ไม่ว่าตูมจะถูกหล่อหลอมแบบไหนด้วยสังคมยังไงก็แล้วแต่ พ่อกับแม่ไม่มีวันทิ้งตูม อันนี้คือสิ่งที่ตูมรู้วันนั้น

อยากบอกอะไรกับแม่บ้าง ?
ดีเจมะตูม : จะพูดเป็นรอบที่ล้านก็ยังพูดประโยคเดิม แม่ฟังนะ แม่คือคนที่เลี้ยงลูกทั้ง 3 คนมาด้วยตัวเองคนเดียวได้สมบูรณ์แบบที่สุด แม่เป็นแม่ที่เก่งไม่ต้องตำหนิอะไรตัวเองเลย แม่ดีทุกอย่าง ถ้าลูกของแม่คนนี้ทำอะไรให้สังคมให้คนรอบข้างไม่พอใจหรือเดือดร้อนให้เป็นหน้าที่ของลูกที่ออกมารับผิดและแก้ไขมัน แม่ไม่จำเป็นต้องทำอะไร แม่ไม่ต้องภูมิใจก็ได้ที่มีตูมเป็นลูก แต่อยากให้แม่ภูมิใจในบทบาทของแม่เอง เพราะแม่เป็นแม่ที่ดีที่สุดสำหรับตูมครับ

พี่อั้มก็เป็นอีกคนที่ไม่คิดว่าจะโทรหาตูม ?
ดีเจมะตูม : พี่อั้มเป็นคนในวงการที่หนักพอๆ กับพี่หนิง พี่หนิงไปคอมเมนต์ พี่ดาด้าไปคอมเมนต์แล้วโดน พี่มดดำ พี่ต้นหอมโดนเยอะกว่าใครเลย แต่พี่อั้มไม่ได้ทำอะไรเลย แต่เพียงแค่เป็นเพื่อนกับเราแค่นั้นเองเขาโดน มันมีสำนักข่าวนึงพวดหัวว่า ชาวเน็ตโหวตให้อั้มเลิกคบมะตูม พี่รู้ไหมวันที่ตูมอ่าน ถ้าตูมเป็นชาวเน็ต ตูมก็โหวตให้เลิกคบ

ทำไมถึงคิดอย่างนั้น ?
ดีเจมะตูม : ภาพที่ออกไปคือพี่อั้มเป็นซุปตาร์แล้วกูเป็นแค่ดีเจปากหมาคนนึงมาอยู่ข้างอั้ม คนก็จะตีตราแล้วว่าเราควรอยู่ระดับนี้ เพราะพี่อั้มอยู่ระดับนั้น แต่คนเราเวลามันเป็นกัลยาณมิตรกัน มันไม่มีใครมองหรอกว่าใครรวยกว่ากัน ใครดังกว่ากัน เพื่อนคือเพื่อน ซึ่งพี่อั้มไม่เคยเอาข่าวที่ทำให้เขาเดือดร้อนมาใส่ตูมเลย ทั้งที่เขามีสิทธิ์ที่จะเลิกคบตูมได้นะตอนนั้น เพราะว่าคนไปขุดเอารูปเก่าๆ ที่เขามางานวันเกิดตูมปีก่อนๆ มาเป็นประเด็น เรื่องไทม์ไลน์อะไรต่างๆ พี่อั้มโดนหนักเหมือนกัน ตูมก็เกรงใจเขา เพราะเขาไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย แต่ความคิดน้อยใจของเราไปเอง เราคงจะไม่ไปยุ่งกับเขาเยอะแล้วเราเกรงใจ กลับกลายเป็นว่าวันที่ตูมออกจากโรงพยาบาล ตูมไปสถานีตำรวจเสร็จเรียบร้อยแล้ว พี่หนิงโทรมาว่ามาหาที่บ้านหน่อย คิดถึง ไม่ได้เจอพี่หนิงเลย แล้วตูมก็ขับรถไปหาพี่หนิง พอตูมไปถึงหน้าบ้าน ตูมไม่ได้เจอพี่หนิง แต่ตูมเจอซูเปอร์สตาร์คนนั้นเดินลงมา ตูมจำได้พี่อั้มใส่เดรสลายดอกสีแดง ผมยาวตรง วันนั้นพี่อั้มสวยมาก วินาทีที่เขาเดินมาจากรถตู้ ในใจตูมมีเป็นหมื่นล้านคำ พี่อั้มตูมขอโทษนะพี่ที่พี่โดนด่าไปด้วย แต่เรากลับพูดอะไรไม่ออกเลย เพราะว่ามันจบด้วยเขาเดินเข้ามากอดเรา แค่กอดนั้นมันเหมือนชุบชีวิตเราขึ้นมาเลยว่าไม่เป็นไร ไม่ต้องพูดอะไร เอาแค่นี้ พอกอดเสร็จปุ๊บพี่อั้มขึ้นรถแล้วกลับบ้าน พี่อั้มแค่แวะมากอดแล้วก็ไป ตูมไม่รู้นะว่าตูมกับพี่อั้มผ่านเรื่องราวมาด้วยกันเยอะ แต่กอดนี้ทำให้ตูมรู้ว่า นี่ไง…นางฟ้าของกู ตอนที่พี่หนิงออกโรงมาดูแลตูม พาตูมไปปฏิบัติธรรม ต้องมีคนอีกจำนวนมากทักหาพี่หนิงแล้วบอกว่าไปช่วยมันทำไม

หนิง : หนิงคิดว่าเขาจะเป็นคนดีได้ แล้วหนิงก็บอกเขาว่าตูมมองอีกแง่นึงนะ งานหด งานหาย งานพัง ช่างมัน พักซะ แล้วคิดว่าผิดกับสังคมกลับมาทำอะไรชดใช้สังคมซะ

ก็เลยบอกพี่หนิงว่าอยากไปปฏิบัติธรรมที่เสถียรธรรมสถาน ?
ดีเจมะตูม : จริงๆ คำว่าเสถียรเคยอยู่ในหัวตูมตอนที่วันเกิดของตูม 2 ปีก่อน ตูมจัดปาร์ตี้ใหญ่โตมากธีมละครสัตว์ แม่ตูมไม่ยอมมา เลือกที่จะไปบวชปฏิบัติธรรมให้ตูม ณ ตอนนั้นเราขับรถไปส่งแม่ที่เสถียรฯ ตูมจะลงไปด้วยกันไหม ไม่เอา ไม่ไป มีแต่คนแก่ หนูกำลังจะจัดงาน กำลังจะมีความสุข ไม่ได้อยากมาปฏิบัติธรรมเพื่อค้นหาอะไร หนูค้นหาตัวเองแล้ว แม่บอกลงไปด้วยกันไปกราบแม่ชี ไม่ไปให้เงินแม่ไปด้วย แต่วันที่ตูมเลือกที่จะเดินเข้าเสถียร ถอดรองเท้าแล้วเดินไปข้างใน ตูมมีความรู้สึกแบบทำไมวันนั้นไม่เข้ามากับแม่ เสียดายจังเลย ตูมโทรหาพี่หนิงแล้วบอกว่า ตูมออกมาแล้ว ตูมอยากปฏิบัติธรรม พี่หนิงเงียบ

หนิง : เพราะอะไรรู้ป่ะ ทุกครั้งที่หนิงทำบุญ หนิงจะชวนดีเจมะตูมทำ มะตูมพูดกับหนิงประโยคนึงว่า อีพี่หนิงทำบุญเหมือนมึงอะกูเอาเงินไปปาร์ตี้ดีกว่า

ดีเจมะตูม : เอาไปซื้อผู้ชาย คือเหมือนลึกๆ พี่หนิงไม่เชื่อว่าคนอย่างมะตูมเนี่ยนะจะไปปฏิบัติธรรม มันเป็นไปได้เหรอ 3 วัน 2 คืน โอเคสำหรับหลายคนมันสั้น แต่สำหรับคนที่ไม่เคยเลย การนั่งสมาธิ 10 นาทีเป็นเรื่องยากแล้ว ณ ตอนนั้นตูมมีความรู้สึกว่าอาจจะทำไม่ได้ก็ได้ แต่ดีกว่าไม่ได้ลองทำ

แม่ชีศันสนีย์ สอนอะไรเราบ้าง ?
ดีเจมะตูม : ตอนแรกที่ตูมเข้าไป ตูมคิดว่าเขาจะให้เราไปพูดอะไรบางอย่าง เพื่อให้ตูมดีขึ้น ให้ระบายออกมา แต่เปล่า เสถียรฯ กลับให้ตูมเลือกที่จะเงียบ แล้วกลืนทุกอย่างลงไปแล้วไปคัดเลือกจากข้างในเอง เวลาตูมเจออะไรที่มันรบเร้า ขัดหูขัดตา เจออะไรที่มันไม่ดีปุ๊บ ตูมจะได้ยินเสียงลมหายใจตัวเอง ตูมก็เลยไปถามยายจ๋าว่าทำไมถึงซีเรียสเรื่องลมหายใจจังเลย เพราะว่าแม่ชีไม่เคยตำหนิตูมเวลาตูมพูดเร็วเลย แต่เวลาตูมหายใจเร็วจะแบบหายใจช้าๆ ตูมเลยรู้ว่าสิ่งที่มีคุณค่าสำหรับมนุษย์ไม่ใช่คำพูด ลมหายใจถ้าเราไม่มีเขา เราทำอะไรไม่ได้เลย เสถียรสอนให้ตูมรู้ว่าไม่ว่าสุขหรือทุกข์เราแค่จ๊ะเอ๋แล้ว บ๊าย บาย แล้วทำใจให้มันวางแล้วกลางที่สุด

พอเราออกมาเราคิดว่าเราเป็นคนดีหรือยัง ?
ดีเจมะตูม : ไม่ครับ แล้วคนดีแปลว่าอะไร คนดีที่ทุกคนอยากจะเป็น และอยากให้ทุกคนมองว่าเราเป็นมันคืออะไร นี่คือคำถามที่สังคมตั้งคำถามขึ้นมาว่า ฉันเป็นคนดี ฉันบวชมา เธอเห็นไหม ทำบุญ บริจาคให้วัดใหญ่โต ฉันปฏิบัติธรรมทุกเดือน นี่คือดีเหรอ สำหรับตูมไม่ใช่ คิดดี ทำดี พูดดี ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบ นี่คือความดี แต่ไม่สามารถเปลี่ยนให้มนุษย์เป็นคนดีได้ ถ้าไม่มั่นฝึกฝน เพราะฉะนั้นตูมอยู่แค่ 3 วัน ตูมได้อะไรมาบางอย่าง แต่ออกมาปุ๊บตูมจะกลายเป็นคนดีเลยเป็นไปไม่ได้ เหมือนกับตูมไปบวชแค่ 19 วัน หรือต่อให้ตูมบวช 3 พรรษาเลยก็ได้ แต่ถ้าตูมไม่ได้มั่นฝึกมันก็เป็นไปไม่ได้

ไปปฏิบัติธรรม 3 วัน 2 คืนก็ได้อะไรมาเยอะแล้ว ทำไมถึงตัดสินใจไปบวชต่ออีก ?
ดีเจมะตูม : เพราะแม่ครับ ตูมเห็นน้ำตาของแม่ที่เขาเกาะกระจกตรงห้อง ICU มันเหมือนเป็นสายเลือด ตูมไม่เคยเห็นใครร้องไห้น่าสงสารเท่าแม่ คือแม่ร้องไห้อยากจะทำทุกอย่างให้ลูกมีชีวิตออกมา กลัวจังเลยลูกฉันจะตายไหม ลูกฉันจะรอดไหม ในขณะที่ตัวเขาเองสภาพจิตใจก็ไม่ได้ดี น้ำตาแม่วันนั้นในห้อง ICU ตูมอยากเห็นอีกครั้งในงานบวชของตูม อยากจะเปลี่ยนน้ำตาแห่งความเจ็บปวดของแม่ ให้มันเป็นน้ำตาแห่งความปีติยินดีของแม่ คือวันที่ตูมตัดสินใจบวชตูมโทรหาพี่หนิงก่อน

ทำไมต้องพี่หนิง ?
ดีเจมะตูม : เพราะถ้าไม่มีโทรศัพท์มาวันนั้นในห้อง ICU แล้วบอกว่าตูมอดทนนะ รอพี่นะ ตูมสวดมนต์นะ ตูมฟังธรรมะนะ ถ้าวันนั้นมันไม่มีประโยคนี้จากพี่หนิงออกมาว่าตูมสู้นะ พี่เชื่อว่าตูมออกมาแล้วตูมจะดีขึ้น ตูมเป็นคนดีได้ พี่ยังเชื่อในความดีของตูม มันอาจจะไม่มีตูมออกมาบวชหรือมาทำอะไรอีกเลยก็ได้ ตูมเลยเลือกที่จะโทรหาพี่หนิงและพูดกับพี่หนิงว่า ขอบคุณนะพี่ที่พี่อยู่เป็นกัลยาณมิตรของตูมในวันที่ตูมต้องการใครสักคนนึง แล้วพี่หนิงมีแต่ลูกสาว พี่หนิงเป็นแม่ตูมคนนึงได้นะ พี่หนิงบวชให้ตูมได้ไหม

หนิง : หนิงอึ้ง มันเป็นความรู้สึกที่หนิงมองคนไม่ผิด ใครจะด่ามะตูมยังไงก็แล้วแต่ หนิงจะโดนโซเชียลถล่มยังไงก็แล้วแต่ ในวันที่หนิงเป็นกำลังใจให้เขา แต่หนิงเชื่อว่าแก่นข้างในเขาคือคนดี

ดีเจมะตูม : แม่ตูมมีความสุขมากในวันนั้น แล้วแม่ยังบอกเลยว่าถ้าไม่ใช่หนิง แม่ไม่รู้เลยว่าจะมีปัญญาทำได้ขนาดนี้ไหม

1 สาเหตุที่บวชให้หนิงด้วย เพราะหนิงไม่มีลูกชาย ?
หนิง : ช่วงนี้หนิงเจออะไรแย่ๆ เยอะมากนะ แต่สิ่งนี้มันทำให้หนิงรู้สึกว่าคนที่อยู่ข้างๆ เราจริงๆ วันนี้ เพื่อนเราน้อยลงไปได้เรื่อยๆ ดี แต่ขอให้เพื่อนที่อยู่รอบๆ ตัวเราเป็นเพื่อนที่มีแค่ใจและแก่นข้างใน คือคนเวลาทุกข์เราจะมองไม่เห็นตัวเอง แต่ถ้าเราทุกข์แล้วเราพยายามอยู่กับตัวเอง เราถึงจะเห็นตัวเอง เราก็แค่วางลงแล้วมูฟออน พอเวลาเราวางได้แล้วเราเลิกคิดมัน ข้างในเรามันก็จะผ่องใส สุดท้ายแล้วใจเราเป็นคนกำหนดเอง ตราบใดที่เรามั่นใจว่าสิ่งที่เราทำลงไปมันเป็นกุศล ต่อให้คนมองไม่เป็นกุศล ถ้าใจเราคิดว่ามันเป็นกุศลมันก็จะมีความสุข แต่ถ้าเราไปย้ำกับตัวเราเองว่าทำไมทุกข์แสดงว่าสิ่งที่เราทำมันไม่ใช่กุศลแล้ว

เราได้เห็นน้ำตาแห่งความสุขของแม่ไหม ?
ดีเจมะตูม : เห็นตอนปลงผม จริงๆ แม่น้ำตาเอ่อตั้งแต่ตูมก้มล้างเท้าและกราบเท้าแล้วครับ มันมาถึงสักที การบวชครั้งนี้น่าจะเป็นการสร้างกุศลใหญ่ให้กับแม่ โชคดีจังเลยที่มีโอกาสได้บวชเรียนให้กับบุพการี

ประสบการณ์การบวชพระที่จำไปตลอดชีวิต ?
ดีเจมะตูม : คือตูมบวชวัดโพธิ์ทอง ตูมบวชเสร็จปุ๊บวันที่ 9 วันเกิด วันที่ 10 ตูมธุดงค์เลยครับไปอยู่วัดป่า ปิดมือถือ ปิดวาจาไม่คุยกับใคร

วันที่ตูมบวช ตูมบอกว่าพี่หนิงช่วยตูมหน่อยนะ ตูมอยากให้พ่อ แม่ มาอยู่ที่เดียวกัน ?
ดีเจมะตูม : ข่าวที่บอกว่าพ่อ แม่ตูมกลับมาในรอบ 15 ปี มากอดกันต่อหน้าอย่างนี้ ไปนั่งเทศน์ขออนุญาตแก้นะครับ ไม่ได้เทศน์นะครับ การเทศน์คือตูมต้องไปเรียนเป็นเรื่องเป็นราว แต่อันนี้ตูมแค่ไปแชร์ให้เป็นกุศลทาน สนทนาธรรมกับโยมพ่อ โยมแม่ เพราะพระใหม่ที่บวชเรียนตามประเพณีแล้วถ้ามีโอกาสต้องกลับไปเทศน์ให้พ่อ ให้แม่ฟัง ตูมแค่ถามว่าแม่ทุกข์ไหมกับการที่ต้องมีพ่อในชีวิตตอนนี้ แล้วพ่อทุกข์ไหมกับการที่มีแม่ ในฐานะลูกอยากให้พ่อกับแม่ไม่ทุกข์ ตูมทำยังไงดี ที่ผ่านมามันแก้ไม่ได้ มันเป็นอดีต แต่ ณ วันนี้ลูกบวชเรียนอยู่ขอบิณฑบาตความบาดหมางนี้ได้ไหม

แล้วเขาว่ายังไง ?
ดีเจมะตูม : แม่ร้องไห้ พ่อยิ้ม แล้วมันเกิดขึ้นเร็วมากวินาทีที่เขาดึงไปกอดกัน คุณพ่อก็บอกว่าพี่ขอโทษ แค่คำว่าขอโทษคำเดียวมันเหมือนทลายกำแพง 15 ปี

ในวันที่เขากอดกัน เขาขอโทษกัน ความรู้สึกเราเป็นยังไงบ้าง ?
ดีเจมะตูม : มันยากมาก เพราะเราอยู่ในผ้าเหลือง ตูมแค่ปิติ นั่งยิ้ม แล้วบอกว่า เบาๆ หน่อยโยม ก็แซวเล่น ตูมรู้สึกว่าเรื่องนี้มันเป็นกุศลทานได้ และโชคดีจังเลยที่มีโอกาสบวชให้บุพการี

จากตั้งใจบวช 7 วัน จนสุดท้ายเป็น 19 วัน จริงๆ จะอยู่ต่อ ?
ดีเจมะตูม : พอหลังจากที่ตูมทำให้พ่อ แม่กลับมาคุยกันได้ เพื่อนพี่หนิงมาหา โยมคนนั้น คนนี้มาหา แล้วเราพูดพระธรรมคำสอนแล้วเขาดีขึ้น เขามีใจที่กุศลมากขึ้น เขาอยากทำดีมากขึ้น เราก็รู้สึกว่าตัวเรามีคุณค่า เราก็เลยอยากจะอยู่ต่อก็เลยไปหาหลวงพ่อที่กุฏิ แล้วหลวงพ่อถามว่าท่านทำไมไม่อยากสึก ผมรู้สึกว่าอยู่ในผ้าเหลืองแล้วผมสร้างคุณงามความดีได้เยอะมาก ผมรู้สึกว่าตัวผมมีคุณค่าและมีประโยชน์มากเลยครับ ผมอยากศึกษาพระธรรมคำสอนให้ละเอียดกว่านี้ รู้ไหมว่าหลวงพ่อทำอะไร ฉีกผ้าเหลืองตรงอกของท่าน ผ้าเหลืองไม่ควรปกคลุมร่างกายท่าน ควรปกคลุมไปในใจท่าน ท่านไม่ควรมาบวชเพื่อมาเป็นพระสงฆ์ที่ดี ท่านควรมาบวชศึกษาพระธรรมคำสอนเพื่อออกไปเป็นพุทธศาสนิกชนที่ดี เราสามารถสึกตั้งแต่วันนี้แล้วออกไป เอาสิ่งที่เราเรียนรู้มาไปปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบได้ เพราะฉะนั้นถามมาว่าสึกแล้วได้อะไรบ้าง ตอบครับ ได้ ถ้าสึกมาแล้วไม่ได้อะไรเลยเท่ากับว่าเหมือนไม่ได้ไปบวช ตูมไปบวชตูมได้ครับ

คนส่วนใหญ่บอกว่าตูมบวชเพื่อต้องการล้างภาพ ล้างมลทิน ใช้ผ้าเหลืองชุบชีวิตใหม่ ?
ดีเจมะตูม : บวชล้างบาป คุณมีสิทธิคิดอย่างนั้นได้นะครับ ตูมเข้าใจเลยว่าคนจำนวนมากต้องคิดแบบนั้น แต่สำหรับตัวตูม ตูมต้องการบวชเพื่อศึกษาพระธรรมคำสอน ต่อให้ตูมไม่บวช ตูมทำอะไรสักอย่างถ้าเขาไม่ชอบก็คือคนไม่ชอบ คอมเมนต์ในโซเชียลเขาตะโกนว่าเรา 100 คนแต่ถ้าเราเลือกเอาแต่ดีๆ ที่เป็นประโยชน์มาไว้ใกล้ๆ หูเราก็เดินต่อได้ ไอ้คอมเมนต์ด่าเราทั้งหมดตูมไม่เพิกเฉย แต่ตูมก้าวผ่าน ตูมทำได้ไงครับ ตูมสามารถเลือกที่จะวางเขาได้

แต่ที่โดนคอมเมนต์ด่าแรงๆ ทำศาสนาเสื่อม เอาศาสนามาชุบตัว ลากคนไปกินในวัด ?
ดีเจมะตูม : หาว่าตูมเอาปัจจัยไปกินเด็กวัดอันนี้แรงมาก ตอนนั้นยังเป็นพระอยู่ โยมพี่หนิงอาตมาไม่ได้เป็นอย่างที่คนเขาคอมเมนต์ เชื่อแต่มันไม่ได้นะ อันนี้ฟ้องได้นะ ฟ้องเขาใครได้ประโยชน์ ตูมได้อะไร เขาได้อะไร เขาเสียเงินด้วยซ้ำถ้าเขาแพ้ แต่ถ้าตูมจิตกุศลมองทุกอย่างให้มันเป็นธรรม มีทุกข์ มีสุข มีชมและมีด่า มันมาคู่กันอยู่แล้ว มนุษย์ไม่สามารถห้ามไม่ให้ใครตำหนิใครได้ เพราะตัวเราเองยังตำหนิคนอยู่เลย ฝากคนที่ดูอยู่ตอนนี้เลย ไม่ว่าใครก็ตามที่มาด่าคุณในโซเชียลให้ทำความเข้าใจไว้ว่าเพราะเขาไม่ได้รู้จักเราดี และไม่ได้อยากรู้จักเราดีด้วย เพราะถ้าเขาอยากรู้จักเราจริงๆ เขาจะไม่ตัดสินเราขนาดนั้น พี่รู้ไหมคนที่พิมพ์ด่าเราในโซเชียลบางคนพิมพ์เป็นหน้ากระดาษเลย เขาเสียเวลาพิมพ์ด่าเราไม่น่าเกิน 5 นาที เราจะเก็บ 5 นาทีนั้นมาเป็นชั่วชีวิตเราไม่ได้

คำด่าเป็นแค่ตัวอักษร ?
ดีเจมะตูม : ใช่ครับ ตูมเชื่อนะครับ วันนี้ตูมไม่ได้มานั่งพูดในรายการวันนี้ในฐานะของดีเจมะตูมที่อยู่ในวงการบันเทิง ตูมขอใช้พื้นที่ตรงนี้พูดในฐานะมนุษย์คนนึงครับ ที่มีรัก โลภ โกรธ หลง มีกิเลสตัณหา มีความผิด แต่รู้สึกตัวแล้วก็ศรัทธาในพระธรรมคำสอนของสัมมาสัมพุทธเจ้า ตูมขอแค่เป็นส่วนเล็กๆ ที่ยังพอจะสามารถเอาประสบการณ์ตัวเองมาเผยแพร่และสืบสานและสืบทอดพระพุทธศาสนาของตูมเอง ตูมขอแค่นี้พอ

อยากจะบอกอะไรกับพี่สาวเรา ?
ดีเจมะตูม : พี่หนิงรู้ไหมตัวพี่เองเป็นคนที่วิเศษมากนะ พี่เป็นคนที่เปลี่ยนชีวิตเด็กคนนึงได้ด้วยใจกุศลจริงๆ ทุกๆ การกระทำของพี่ ไม่ว่าจะเป็นทางโลกหรือทางธรรมที่เราทำด้วยกัน ตูมรู้เลยว่ามันมาจากข้างในของพี่ พี่หนิงอาจจะไม่ใช่คนที่คนทั้งประเทศรัก พี่หนิงรู้ตัวเองดี แต่วันนี้ให้พี่หนิงจำไว้ว่าพี่หนิงมีคนที่รักพี่มากคนนึงซึ่งเขานั่งอยู่ต่อหน้าพี่ตอนนี้ ตูมรักพี่หนิงมากนะ ดีใจมากที่ในวงการบันเทิงที่เขาว่ามันมายา หาความจริงใจไม่ได้ อย่างน้อยหนูแม่งโคตรโชคดีที่มีพี่หนิง ปณิตา เป็นกัลยาณมิตรที่ดีในวงการนี้ ขอบคุณสำหรับทถกอย่าง

หนิง : พวกเราโคตรดีใจเลยที่มีมะตูมอยู่ตรงนี้ แล้วสิ่งที่รู้สึกดีใจที่สุดคือ เพื่อนกันอะในวันที่ทุกข์ที่สุดมันไม่ฉุดกันลงต่ำ วันที่ตูมทุกข์เราก็อยู่ข้างๆ วันที่เราทุกข์ตูมก็อยู่ข้างๆ แล้วเชื่อว่าถ้าตูมมารับคำด่าจากสังคมแทนหนิง หนิงว่าตูมก็ยอม ณ วันนี้เราสองคนมาออกรายการคนก็อาจจะหาว่าเราสร้างภาพ

ดีเจมะตูม : ตูมอยากจะบอกทุกคนนะครับ คำว่าเพื่อนสิ่งที่ตูมได้เรียนรู้มาจากประสบการณ์ ไม่จำเป็นต้องมีเยอะ ขอแค่มีแล้วดี ซึ่งพี่คือคนดีไง

หนิง : ขอบคุณในหลายๆ เรื่อง ที่ฉุดสติพี่ขึ้นมาให้พี่ไม่ทำอะไรที่มันก้าวร้าว รุนแรง แล้วมันก็แย่หนักลงไป ไม่ใช่แค่พี่ช่วยตูม ตูมก็ช่วยชีวิตพี่เหมือนกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Tags: ดารา ดีเจมะตูม บันเทิง มะตูมบวช

Continue Reading

Previous: “บิณฑ์-เอกพันธ์” ยืนยัน “สรพงษ์” เป็นมะเร็งปอดระยะ 2 ไม่ใช่ “มะเร็งสมอง” 
Next: “นิชคุณ” คัมแบ็กวงในรอบ 5 ปี ปลื้มรับตำแหน่งคุณลุง

Most Viewed Posts

  1. ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ กำลังใจล้น ลือถูกมือดีปล่อยคลิปหลุด ภาพลับ!!
  2. คนเราขาดอากาศหายใจหรือสมองขาดออกซิเจนได้กี่นาที? คนเราขาดอากาศหายใจหรือสมองขาดออกซิเจนได้กี่นาที?
  3. ‘เจ้าหญิงดิสนีย์’ กับประวัติ 11 เจ้าหญิง แรงบันดาลใจของเด็กผู้หญิง!!
  4. 'เบียร์ เดอะวอยซ์' เคลื่อนไหว ต้นสังกัด 'ท็อป Lazyloxy' เตรียมดำเนินคดีชาวเกรียน!  ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ เคลื่อนไหว ต้นสังกัด ‘ท็อป Lazyloxy’ เตรียมดำเนินคดีชาวเกรียน! 
  5. ก่อนคลิปว่อน!! ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ เคยโพสต์เป็นลางบางอย่าง

You may have missed

เสน่ห์ ‘ละคร’ ยุคเก่า ‘หนึ่งในร้อย’ ปลุกย้ำความทรงจำวันวาน

เสน่ห์ ‘ละคร’ ยุคเก่า ‘หนึ่งในร้อย’ ปลุกย้ำความทรงจำวันวาน

อยากทำอะไร ?? ใน “ฤดูหนาว”

อยากทำอะไร ?? ใน “ฤดูหนาว”

เมืองที่เป็นมิตรอันดับ 4 ของโลก ‘กรุงเทพมหานคร’ รู้สึกอย่างไร เมื่อต้องใช้ชีวิตที่นี่??

เมืองที่เป็นมิตรอันดับ 4 ของโลก ‘กรุงเทพมหานคร’ รู้สึกอย่างไร เมื่อต้องใช้ชีวิตที่นี่??

จะรู้สึกอย่างไร?? เมื่อได้สัมผัสพลังแห่งศรัทธา ‘ประเพณีไหลเรือไฟ’

จะรู้สึกอย่างไร?? เมื่อได้สัมผัสพลังแห่งศรัทธา ‘ประเพณีไหลเรือไฟ’

ติดต่อโฆษณา TOPPIC Time โทร. 064-562-4193 | DarkNews by AF themes.