Skip to content

TOPPIC TIME

เวลาของเรื่องเล่า

  • TOPPIC TIME
  • NEWS
    • POLITICS
    • EDU-ART
    • LOCAL
    • OVERSEA
    • SPORT
  • ECONOMY
  • ENTERTAIN
    • CELEB
    • MUSIC
    • MOVIE
    • FOREIGN
  • LIFESTYLE
    • BEAUTY
    • FASHION
    • HEALTH
    • FOOD
    • TRAVEL
    • HOME
    • IT
    • AUTOMOTIVE
  • SECRET
    • HORO
    • MYSTIC
    • LOTTO
  • FOOD
  • TRAVEL
  • HEALTH
  • SPORT
  • SUSTAIN
    • PEOPLE
    • CAREER
    • CORPORATE
    • ENVIROMENT
  • CLIP

มีเสี่ยเลี้ยง! “เซ้นต์ ศุภพงษ์” เคลียร์ดราม่าข่าวลือ

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

“เซ้นต์ ศุภพงษ์” เคลียร์ข่าวฉาว เสี่ยเลี้ยง-ครอบครัวตกอับ ทะเลาะ 2 คู่จิ้น จนทำงานด้วยกันไม่ได้?…

นักแสดงวัยรุ่นรูปหล่อ “เซ้นต์ ศุภพงษ์” ที่โด่งดังมาจากซีรีส์วาย เปิดเผยเส้นทางในวงการบันเทิง พร้อมโต้ข่าวเมาท์ขายตัว-มีเสี่ยเลี้ยง พร้อมเคลียร์คำครหาทะเลาะกับคู่จิ้นทั้ง 2 คน จนทำงานด้วยกันไม่ได้ ผ่านทางรายการ คุยแซ่บ show แบบหมดเปลือก

พี่เอ ศุภชัย เคยทาบทามน้องดึงให้มาเป็นนักแสดงในสังกัดแต่คุณปฎิเสธไป ?
เซ้นต์ : จริงๆ ก็เหมือนเด็กทั่วไปเลย ที่มีโอกาสได้เจอพี่เอ เพราะตอนนั้นผมเรียนพิเศษที่สยาม ก็เจอพี่ที่สยาม ตอนนั้นก็มีพี่มาชวน

พี่เอคือแมวมองอันดับ 1 เลย เขาเห็นเซ้นต์ปุ๊บแล้ว เขาส่งคนมาชวนหรอ ?
เซ้นต์ : เป็นเชิงชวนมาเป็นพี่เป็นน้องกัน มาลองทานที่ร้านอาหารพี่มั้ย เขาก็ถามว่าอยากลองเป็นนักแสดงมั้ย แต่ตอนนั้นผมติดเรียน กับติดค่ายอาสา เลยบอกพี่เขาว่าอยากจะโฟกัสเรื่องเรียน กับค่ายอาสาก่อน แต่ผมช่วยธุรกิจได้นะครับ มีความใฝ่ฝันอยากเป็นนักธุรกิจ เลยบอกพี่เอว่าผมช่วยทำธุรกิจได้นะ คือจริงๆ แล้วผมเป็นเด็กต่างจังหวัด ที่ผมเข้ามาเรียนมัธยมปลายที่กรุงเทพฯ เพราะผมอยากเก็บประสบการณ์ธุรกิจ ผมรีเสิร์ชเลยว่า โรงเรียนอะไรเป็นโรงเรียนที่มีนักธุรกิจจบมามากที่สุดแล้วก็ตั้งใจไว้เลยว่าจะเข้าโรงเรียนนี้

แล้วตอนนั้นเซ้นต์ไปช่วยธุรกิจอะไรของพี่เอ ?
เซ้นต์ : ไปช่วนทำร้านอาหารและก็ร้านเสื้อผ้า

พี่เอตอนนี้คือสวยมาก ตอนเจอพี่เอตอนนั้นสวยแบบนี้มั้ย ?
เซ้นต์ : สวยครับ จริงๆ พี่เอสวยมาตั้งนานแล้วนะครับ แล้วก็เป็นพี่ที่น่ารักมาก พี่เอสอนอะไรผมเยอะมาก ในมุมที่เราเป็นพี่เป็นน้องกัน พอพี่เอสอนในเรื่องธุรกิจแล้ว ในเรื่องของชีวิต พี่เอก็สอนเยอะมาก ตอนจะได้เล่นซีรีส์เรื่องแรก ผมก็เอาบทให้พี่เอช่วยแนะนำ ตอนนั้นผมช่วยพี่เอทำธุรกิจช่วงนึงก่อน พอเข้ามหาวิทยาลัยก็เลยไปเต็มที่กับเรื่องเรียน ไม่ได้ติดต่อกับพี่ช่วงนึง มีทานข้าวกันบ้าง แต่ไม่ได้ไปหาพี่ทุกวัน เหมือนตอนทำธุรกิจ

วันนี้พี่เป็กมี VTR พี่เอมาฝาก ดูซิพี่เขาว่ายังไง เสียใจมั้ยที่เซ้นต์ไม่เป็นดาราในสังกัด หรือเขาก็มีความสุขดีกับการเป็นเซ้นต์ในปัจจุบัน ?
เอ ศุภชัย : เจอเซ้นต์ตอนแรก ตอนนั้นพี่เอเปิดร้านอยู่ที่สยามสแควร์ น้องเซ้นต์ก็เรียนที่อัสสัม เราก็มีโอกาสได้เจอกันที่สยาม เลยได้มีโอกาสได้พูดคุย ได้ชักชวนให้น้องเซ้นต์มาช่วยที่ร้าน น้องเซ้นต์เป็นเด็กน่ารักมาก พี่เอฝึกให้เขาดูแลลูกค้า น้องไม่เคยบ่น พี่เอก็ดีใจกับความสำเร็จของน้องมากๆ เลยค่ะ

เริ่มชักชวนน้องเป็นดาราตอนไหน ?
เอ ศุภชัย : เหมือนตอนนั้นน้องยังเรียนอยู่ ม.4-ม.5 พี่เอเลยบอกว่า ช่วงเวลานี้น่าจะให้เอ็นทรานซ์ก่อน น้องก็บอกว่าจะตั้งใจเรียน ตอนแรกน้องจะเป็นหมอด้วยซ้ำ พอตอนหลังน้องก็บอกมาเรียนบริหารก็ได้ ก็เลยได้มีโอกาสได้ชวนน้องมาเรียนรู้การทำงานของพี่เอ การทำงานเปิดร้านอาหารแล้วเอาน้องๆ ไปดูแลลูกค้าในร้านก็เป็นเหมือนกันเซอร์วิสฝึกตนเอง ให้มีมนุษยสัมพันธ์กับคนอื่น พี่เอก็เลยได้เอาน้องมาตรงจุดนั้น

ประทับใจอะไรในตัวน้องเซ้นต์ ?
เอ ศุภชัย : ตอนก่อนเข้าวงการยังไง ตอนนี้ก็ยังอย่างนั้น

อยากฝากอะไรถึงน้องเซ้นต์ ?
เอ ศุภชัย : ขอให้น้องเซ้นต์เจริญเติบโตในอาชีพการงาน พี่เอเป็นกำลังใจอยู่นะคะ

อยากจะบอกอะไรกับพี่บ้างมั้ย ?
เซ้นต์ : จริงๆ อยากขอบคุณพี่เอ ไม่ว่าจะทางธุรกิจหรือการใช้ชีวิต พี่สอนผมหลายข้อมาก หรือประสบการณ์เอง อย่างที่เล่าให้ฟังว่า อย่างเราไปเรียนแล้ว แล้วผมเริ่มเล่นซีรีส์ปี 2 ปีกว่า ที่เราเต็มที่กับการเรียน ไม่ได้ไปมาหาสู่ มีโทรบ้าง นัดกินข้าวบ้าง พอปี 2 บังเอิญรักติดต่อมา ผมยังเอาบทไปให้พี่เอดู พี่เอก็ยังเอ็นดู แนะนำผมดีมาก ผมอยากขอบคุณพี่เอก้าวแรก ในหลายๆ ทางที่คอยดูแลกันมา เป็นพี่ที่น่ารักคนนึง ต้องขอบคุณพี่เอมากๆ เลยครับ

ตอนแรกเราไม่โอเคกับการเป็นนักแสดง อยากเป็นนักธุรกิจ ทำไมพอมาถึงช่วงนึงเรามาถึงจุดเปลี่ยนพร้อมที่จะเป็นนักแสดงแล้ว ?
เซ้นต์ : จริงๆ อาจจะเป็นเรื่องแปลกนะ ตอนที่ผมเข้าวงการใหม่ๆ หลายๆ คนอาจจะมีเป้าหมายอยากเป็นอย่างนี้ อย่างนี้เลย เป้าหมายของผมตอนเข้าวงการใหม่ๆ คืออยากพาคนไปทำความดี หรือไปทำบุญให้มากที่สุด เพราะด้วยความที่เราทำค่ายอาสา แล้วกระบอกเสียงเรามันเบามากเลย ผมเคยไปเปิดกล่องอยู่ 4 ชั่วโมงแล้วโดนไล่ บางวันเคยยืนอยู่ 6 ชั่วโมงได้ 20 บาท

นี่คือสิ่งที่ทำให้เราจุดประกายว่าเสียงเรามันจางจังเลย ?
เซ้นต์ : ใช่ครับ คือวันนั้นเราไม่มีทรัพย์ แต่เราสามารถที่จะใช้แรงของเราได้ วันนึงเรารู้สึกว่า ถ้าเรามีชื่อเสียง เราจะสามารถใช้เสียงของเราชวนคนมาทำบุญ พอตอนนี้เราไม่มีเวลา แต่มันมีน้องรุ่นใหม่ที่มีแรง ที่มีเวลาทำต่อจากเรา เราใช้ทุนทรัพย์ที่เรมีตอนนี้หรือกระบอกเสียงของเราพาน้องๆ ทำ

แล้วโมเมนต์ที่ตัดสินใจว่าจะเป็นนักแสดงแล้วนะ เรากลับไปบอกพี่เอว่ายังไง พี่เอเขาจะงงมั้ย เพราะเขาเคยชวนแล้วเราไม่เป็น ?
เซ้นต์ : พี่เอเคยบอกผมแล้วว่า น้องเซ้นต์เหมาะกับวัยรุ่น ถ้าน้องเซ้นต์ทำตรงนี้น่าจะทำได้ดี

งานชิ้นแรกเป็นซีรีส์วาย คุณพ่อคุณแม่ว่ายังไงบ้าง ?
เซ้นต์ : คุณแม่สนับสนุนเลยครับ ซีรีส์เรื่องนี้ทำมาจากนิยาย คุณแม่เป็นคอนิยาย คุณแม่ก็ขอนิยายนี้ไปอ่านก่อนเลย พอผมไปแคสต์แล้ว พอเขาเลือกว่าได้เล่นแล้ว เวิร์กช้อป ก็เอานิยายส่งไปให้คุณแม่

อันนี้เป็นซีรีส์วายเพิ่มความยากไปอีก มีฉากเลิฟซีนด้วย ทำการบ้านหนักมั้ย ?
เซ้นต์ : ถ้าเริ่มเรื่องแรกมันยากทุกอย่างเลย เพราะเรารู้สึกว่าเราไม่เข้าใจการแสดงเหมือนปัจจุบัน เราจะทำยังไงให้คนเชื่อเรา ทำยังไงให้คนรู้สึกไปกับเรา

เล่นละครชายจูบหญิงก็ยากแล้ว อันนี้ชายจูบชาย จูบผู้ชายครั้งแรกเป็นยังไง ?
เซ้นต์ : พอเราเล่นทั้งชายชายและชายหญิงมาแล้ว ผมรู้สึกว่าไม่ต่างกันนะ มันจะเป็นความเคอะเขินเหมือนกัน ยิ่งถ้าเป็นผู้หญิงเราต้องให้เกียรติเขามาก เพราะผู้หญิงเราจะไม่ได้สนิทมากเหมือนกับผู้ชายที่จะคุยเรื่องรถ เรื่องบอล

แต่อันนี้มันไม่ใช่จุ๊บธรรมดานะ ?
เซ้นต์ : ตอนผมเล่นก็เขินนะ จำได้ว่าซีนแรกที่เล่น จูบเลย 10 กว่าเทค

ฟีลลิ่งที่โดนจุ๊บเราเคลิ้มมั้ย ?
เซ้นต์ : เราพยายามจินตนาการให้อินไปกับตัวละคร แต่ผมเวลาเล่นอะไรพวกนี้เสร็จแล้วจะชอบหิวข้าว

คุณพ่อ คุณแม่มีรีวิวเกี่ยวกับตัวเรายังไงบ้าง ?
เซ้นต์ : แรกๆ ผมเล่นให้คุณแม่ดูก่อนเลย เขาบอกว่ามันไม่ได้ ผู้ชายเกินไป คุณแม้ก็จะคอมเมนต์ทุกวีก คุณแม่เป็นคนสนับสนุน รู้สึกว่าคุณแม่เป็นโค้ชแอคติ้งเราอีกคน คุณแม่จะชอบพูดข้อเสียหรือจุดบกพร่องเราคืออะไร เพื่อให้เราพัฒนาต่อ

เรื่องแรกว่าฟินแล้ว เรื่องที่ 2 เลิฟซีนหนักกว่า ?
เซ้นต์ : เรื่องแรกถ้านับรุนแรงกว่าเรื่องที่ 2 แต่พอโพสต์โปรดักชั่นตัดต่อ ใส่ซาวด์เข้าไป เรื่องที่ 2 เลยดูรุนแรงกว่าเรื่องแรก

คนดูอินจนคิดว่ายังไงอะ เซ้นต์เขาเป็นหรือเปล่า จะหันไปชอบผู้ชายจริงๆ หรือเปล่า ?
เซ้นต์ : ตัวผมพอมีโอกาสได้เล่นซีรีส์ ผมได้เรียนรู้ว่าสุดท้ายความรักมันไม่มีเรื่องเพศ ถ้าเรารู้สึกดีกับใคร รู้สึกว่าคนนี้เป็นคนที่ใช่ คนนี้ตอบโจทย์เรา ผมก็เลยไม่ได้จัดว่าเราต้องมีความรักแบบระบุเพศ สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดคือคำว่ารัก

กว่าจะโด่งดังขนาดนี้ก็ต้องมีดราม่า เซ้นต์รู้ไหมว่าเราโดนซุบซิบอะไรบ้าง ?
เซ้นต์ : รู้ครับๆ บางทีก็จะเห็นเทรนด์ทวิตเตอร์ เราเป็นคนชอบอ่านข่าว ผมเป็นคนชอบอ่านข่านเศรษฐกิจ แล้วชอบเปิดอ่านข่าว ก็จะเห็นข่าวตัวเอง

ก็จะมีคนบอกว่าน้องเซ้นต์เป็นเด็กเสี่ย ?
เซ้นต์ : ใช่ครับ ตอนนั้นมีข่าวออกมาข่าวนึง เหมือนกันที่บอกว่าเป็นเด็กเสี่ย มีคนเลี้ยง จริงๆ ก่อนเข้าวงการบันเทิง น้องไม่ได้เรียนหนังสือเลยนะ แบบมีคนเลี้ยง อย่างนู้น อย่างนี้ คืออาชีพหลักคือตรงนี้ คือผมก็งงเหมือนกัน แต่ผมก็ไม่พูดอะไรนะ เราคิดในใจนะว่ามันไร้สาระ เราไม่สนใจ มันไม่มีอะไร แต่ข่าวมันก็มีอยู่เรื่อยๆ เริ่มมีคนถาม

ก็มีข่าวว่าครอบครัวน้องเซ้นต์ตกอับ ?
เซ้นต์ : ใช่ๆ คุณแม่ผมก็มีความสุข อากงก็มีความสุข ที่บ้านก็มีธุรกิจของเรา มันไม่ใช่ข่าวจริง เราเลยเฉยๆ แต่มันก็มีคนมาถามเยอะ พี่ๆ สื่อมาถาม

รู้สึกยังไงกับข่าวแรงๆ ?
เซ้นต์ : ณ ตอนนั้นพอหลายๆ คนถาม จริงๆ ผมต้องขอบคุณพี่ๆ สื่อมากเลยครับ เพราะพี่ๆ สื่อน่ารักมาก เราไปเช็กประวัติเราว่าเรียนที่ไหนมา ครอบครัวทำอาชีพอะไร พอพี่ๆ สื่อออกมาบอกว่าอย่างนี้ๆ ละ ทุกอย่างคือเงียบไปเลย คือทุกคนวิเคราะห์ความจริง คือสิ่งสำคัญที่สุดคือเรารู้ว่าความจริงคืออะไร เมื่อความจริงมันเปิดเผยแล้ว ความจริงที่เกิดขึ้นมันจะคลี่คลายเอง สิ่งหนึ่งที่เราไม่คาดคิดว่างานอาสาที่ผมทำมาทั้งหมด ผมทำโดยไม่หวังผลตอบแทน ไม่ได้หวังอะไรเลย คนที่ทำค่ายอาสาเหล่านี้ หรือน้องๆ หลายคนที่เราเคยให้ความสุขเขา หรือเพื่อนที่สนิทกับเราก็ออกมาเล่าเรื่องเราให้คนฟังตอนที่ดราม่า เรารู้สึกว่าเราโชคดีมากที่มีทุกๆ คน มันเป็นความน่ารัก และที่สำคัญผมมีกำลังใจจากแฟนคลับ หรือบางทีเพื่อนๆ เราออกมาพูด เสียงมันดังไม่พอ พี่ๆ แฟนคลับช่วยเอาคำเหล่านี้มาบอกต่อกัน สุดท้ายความจริงมันเปิดเผย เราไม่ต้องอธิบายอะไร ตัวตนเราเป็นคนยังไง สิ่งที่เราอยากจะทำคืออะไร แล้วสิ่งเหล่านี้มันจะจัดการปัญหาในตัวของมันเอง เราแทบไม่ได้พูดอะไรเลย

แต่ละข่าวเป็นข่าวแรงๆ ทั้งนั้น แต่กลายเป็นว่าข่าวนี้มีคนปล่อยข่าวอยากให้เซ้นต์เสียหาย ?
เซ้นต์ : ใช่ จริงๆ มันทุกข่าวนะ ทุกข่าวบางทีก็มีคนบอกเรานะ ว่าคนนี้เป็นคนทำนะ เราก็โอเคครับ เราจะรู้ว่าคนนี้อาจจะไม่ชอบเราหรือเปล่า แต่ว่าข้อหนึ่งผมสบายใจมากนะ ที่บางคนทำแบบนี้เราสำคัญในชีวิตเขาไง ผมคิดว่าใครนินทาเรา ใครคิดไม่ดีกับเรา พูดไม่ดีกับเรา เพราะเขาสนใจเราไง ถ้าเขาไม่สนใจเรา เขาจะมาทำแบบนี้กับเราทำไม แสดงว่าเราคือคนสำคัญในชีวิตเขาไง

แล้วคนที่ปล่อยข่าวอยู่นอกวงการหรือในวงการ ?
เซ้นต์ : ผมไม่ชัวร์ร้อยเปอร์เซ็นต์เหมือนกัน ก็มีทั้งในวงการและนอกวงการแหละ ผมว่าอย่างนั้น เราแค่รู้สึกว่าเมื่อเขารู้ตัวเองแล้ว รู้ทุกอย่างเขาจะแพ้ภัยตัวเองเอง ซึ่งผมไม่เคยเจอกับคนที่พูดใส่ร้ายผมตรงๆ แต่ก็มีคนมาบอก ซึ่งบางครั้งเราก็เห็นนะ เดินเฉียดกันเขาก็แพ้ภัยตัวเอง เดินหนีเรา เลี่ยงเรา ซึ่งบางทีผมก็เดินไปบอกว่าพี่ไม่ต้องคิดมากนะครับ สิ่งที่พี่ทำผิดแล้ว แล้วพี่รู้สึกว่าผิดผมให้อภัย แต่ถ้าพี่ทำกับคนอื่นต่อพี่ควรพิจารณาตัวเองนะครับว่าสิ่งที่พี่ทำมันถูกหรือเปล่า พี่พูดถึงคนไม่ดีแบบนี้ วันนึงเขาจะไว้ใจพี่เหรอ แล้วเขาก็ไม่ตอบ เขาก็เดินไปเลย ผมเป็นคนตรงๆ ไม่ดีขอโทษ ไม่ชอบก็ยอมรับ ถ้าผมไม่ดีผมยอมรับ เดี๋ยวผมปรับปรุงให้

เราเคลียร์กับเขาแล้ว ไม่ได้มีฟ้องอะไรใช่ไหม ?
เซ้นต์ : ไม่ครับ มันเป็นเรื่องไร้สาระ ผมเลยไม่ได้ฟ้อง ไม่ได้คิดอะไร

ซีรีส์วายปกติจะมีคู่จิ้น แต่ก็มีกระแสเมาท์มาว่าคู่เราไม่ได้จิ้นจริง มีปัญหากัน ?
เซ้นต์ : คนแรก น้องเพิร์ธผมไม่ได้มีอะไรกัน ยังพูดคุยกันอยู่เลย ล่าสุดน้องเพิ่งถูกแฮกไอจีไป ซึ่งผมโดนแฮกก่อน น้องก็ส่งข้อความมาหาว่าต้องทำยังไง สิ่งที่ผมทำอย่างแรกเลยคือผมโทรหาน้องเลย เริ่มจากเพิร์ธไปล็อกเอาต์ออกเลย ลงเมลไหนไว้ เพราะมันจะลิงก์กับแอพอื่นๆ แล้วบอกน้องว่าน้องต้องไปหาตำรวจตรงนี้ ผมก็ถามน้องว่าเป็นยังไงบ้าง ได้ตัวไหม น้องก็เล่าให้ฟัง สรุปคนที่แฮกคือคนที่แฮกผมเลย เขาซ่อนไอพีด้วยนะ บอกว่าเขาอยู่ต่างประเทศ แต่พอเช็กมาอยู่ในเขตเดียวกับที่แฮกผม

แล้วข่าวที่มีปัญหากับเพิร์ธมันมาได้ยังไง ?
เซ้นต์ : จริงๆ ผมกับน้องไม่ได้มีปัญหากันครับ แต่ผมไม่รู้เหมือนกันว่าในเรื่องของผู้ใหญ่ผมไม่รู้ว่าเขาคุยอะไรกัน เขามีอะไรกัน แต่ส่วนตัวผมกับเพิร์ธไม่ได้มีอะไรกัน เราเล่นด้วยกันเรื่องแรก เราโตมาด้วยกัน ผมมองว่าเป็นการทำงานเติบโตมากกว่า

แล้วกับหนุ่มซี พฤกษ์ ละยังไง ?
เซ้นต์ : ก็ไม่ได้มีประเด็นอะไรขนาดนั้น ผมกับพี่ซีเอง ผมรู้สึกว่าเป็นการเติบโต เพราะว่าพี่ซีก็เล่นซีรีส์เป็นคู่จิ้นเหมือนกันอีกเรื่องนึง มันเป็นในเรื่องของการให้เกียรติกันมากกว่า หลายๆ คนเป็นนักแสดงก็อยากจะเติบโต ผมมองในภาพรวมไม่ว่าจะเป็นซีรีส์วาย หรือชาย หญิง ทุกคนก็อยากจะมีผลงานเรื่อยๆ อยากพิสูจน์ตัวเอง อย่างผมรักงานตรงนั้นมาก ผมเป็นคนชอบท้าทายและผมเชื่อว่าพี่เขาก็อยากทำงานในวงการบันเทิงที่ท้าทายขึ้น

แฟนคลับเซ้นต์ซับพอร์ตดีมาก ยิ่งวันรับปริญญา ?
เซ้นต์ : ครับ เป็นบอร์ดเหมือนบอร์ดรับปริญญา แต่เป็นแบงก์หมดเลย แล้วจะมีในงานอีกนะที่เป็นรูปมังกร

เราได้นับรวมมูลค่าไหมว่าเท่าไหร่ ?
เซ้นต์ : ผมไม่ทราบมูลค่าเหมือนกันว่าเท่าไหร่

ไปสืบมาเห็นว่าเป็นล้าน ?
เซ้นต์ : น่าจะถึงมั้งครับ แต่ก็เอาไปทำบุญเยอะเหมือนกันนะครับ ผมรู้สึกว่าแฟนคลับให้ผมด้วยความรัก แล้วสิ่งที่ผมตอบแทนได้ก็ด้วยความรัก อย่างน้อยๆ เงินเหล่านี้เราได้เอาไปสร้างความดี

เห็นว่าแฟนคลับคลั่งรักมาก เอาชื่อไปสัก ?
เซ้นต์ : ที่แขนก็มี ตรงอกก็มี ผมเจอเยอะมากเป็น 10 คนเลย ความรู้สึกแรกของผมคือโอ้ว…เหมือนยันต์ 5 แถวเหมือนกันนะ เหมือนลงอักขระ ผมก็ตื่นเต้นเหมือนกัน แต่ก็ดีใจที่ทุกคนรักผมขนาดนี้

เห็นว่ามีแฟนคลับมาขู่ด้วย ถ้าเราไม่รับรักเขา เขาจะทำร้ายตัวเอง ?
เซ้นต์ : เคยเจอเหมือนกันในลักษณะ DM ช่วงเข้าวงการใหม่ๆ เราก็ทำอะไรไม่ถูก ก็มีคน DM มาว่าเธอต้องเป็นแฟนฉันถ้าเธอไม่เป็นแฟนฉัน ฉันจะฆ่าตัวตาย เราก็ตกใจว่าคืออะไร ผมก็ไปถามผู้จัดการว่ามันคืออะไร เขาส่งวีดิโอมาด้วยนะ กรีดแล้วมีเลือด แล้วพี่เขาก็บอกผมว่าอันนี้ เฮลูบอย ลูก มนุษย์เราเลือดมันจะไม่แดงขนาดนั้น ผมก็เลยเลือกที่จะปิด DM ดีกว่ามันเสียสุขภาพจิตเราด้วย

ตอนนี้สถานะหัวใจเป็นยังไงบ้าง ?
เซ้นต์ : ตอนนี้ยังโสดครับ แต่ก็ไม่ได้ปิดกั้นตัวเองนะ เราเปิดตัวเอง แต่ไม่มีใครเข้ามาคุยด้วย

เรามีสเปกไหม ?
เซ้นต์ : ตั้งแต่เด็กๆ ทุกคนต้องมีสเปกแหละ แต่พอจุดจุดนึง พอทำงาน โตมาแล้วเรารู้สึกว่าสิ่งที่สำคัญมันไม่ใช่สเปก เราไม่ได้จัสว่าต้องอายุเท่าไหร่ ต้องหน้าตายังไง เป็นอะไร แต่แค่รู้สึกว่าสุดท้ายแล้วคนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ และเข้าใจ เพราะว่าผมเป็นคนทำงานเยอะมากนะ ไม่มีเวลา ไม่มีอะไรเลย ฉะนั้นสิ่งที่สำคัญคือความเข้าใจ เป็นสิ่งที่มันเติมเต็มเรา เราต้องการแค่ว่าอยู่ข้างๆ แล้วถามว่าวันนี้เราเหนื่อยไหม ถ้าเหนื่อยไม่เป็นไร อยู่กับเขา คือมันเป็นความเข้าใจ แล้วคนที่ใช่ ในเวลาที่ใช่ มันจะใช่เอง

โสดมากี่ปีแล้ว ?
เซ้นต์ : หลายปีแล้วนะ ตั้งแต่ก่อนเข้าวงการบันเทิง ถามว่าเหงาไหม คือผมทำทุกอย่างตลอดเวลา ก่อนเข้าวงการผมก็เป็นประธานค่ายอาสา มหาวิทยาลัยทำของคณะเยอะเหมือนกัน ธุรกิจไปดูงานตลอด แล้วพอเข้าวงการบันเทิงก็ทำทุกวัน 7 วันเลย เรารู้สึกว่าไม่เหงาหรอก มันมีงานตลอด เวลาเหงาผมคือพอสแคสต์แล้วก็สวดมนต์

คุณเป็นคนมองคนที่นิสัยมากกว่าอย่างอื่น ?
เซ้นต์ : ใช่ครับ ถ้าเรารู้สึกว่าเราจัสที่หน้าตามันอาจจะไม่ใช่คนที่ทำให้เราสบายใจก็ได้ สิ่งที่สำคัญมันคือนิสัยที่มันเข้ากัน มันก็ย้อนกลับไปที่ความเข้าใจ เขาเข้าใจในสิ่งที่มีความสุข ถ้าเรามีความสุข เราก็ไม่อยากเลิกเลิกทำหรอก

เห็นเซ้นต์บอกว่าถ้าโอเคไม่ว่าเพศไหนเราก็ยินดีคบ ?
เซ้นต์ : ใช่ครับ ผมยังไงก็ได้ คนที่เข้ามาแล้วเรารู้สึกสบายใจ ถ้าเขาเป็นคนที่ใช่ก็พอ

เราสกรีนงานเยอะมาก บทไม่เด่นเซ้นต์ไม่รับจริงไหม ?
เซ้นต์ : ผมก็เจอข่าวนี้เหมือนกัน รับแต่บทพระเอก บทอื่นไม่รับ แต่จริงๆ ผมรับทุกบท แต่มันอยู่ที่ไทม์ไลน์การรับมากกว่า ถ้าผมรับจันทร์ อังคาร พุธไปแล้ว ถ้าผมรับอีกแสดงว่าผมรับงานทับกัน มันเป็นเรื่องของเวลามากกว่า.

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Tags: saintsup คู่จิ้น ซีรีส์วาย ซีเซ้นต์ ดราม่าเซ้นต์ หนังวาย เซ้นต์ เซ้นต์ ศุภพงษ์ เซ้นต์ศุภพงษ์ เซ้นต์เพิร์ธ เพิร์ธธนพนธ์ เอศุภชัย

Continue Reading

Previous: พบเนื้อหมูกักตุนเกือบ 500,000 กิโลกรัม!! จนท.เร่งตรวจสอบ
Next: ชาวเน็ตจับโป๊ะ ขุดหลักฐานฟาด “กาละแมร์” ขึ้นถ้ำนาคา

Most Viewed Posts

  1. ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ กำลังใจล้น ลือถูกมือดีปล่อยคลิปหลุด ภาพลับ!!
  2. คนเราขาดอากาศหายใจหรือสมองขาดออกซิเจนได้กี่นาที? คนเราขาดอากาศหายใจหรือสมองขาดออกซิเจนได้กี่นาที?
  3. ‘เจ้าหญิงดิสนีย์’ กับประวัติ 11 เจ้าหญิง แรงบันดาลใจของเด็กผู้หญิง!!
  4. 'เบียร์ เดอะวอยซ์' เคลื่อนไหว ต้นสังกัด 'ท็อป Lazyloxy' เตรียมดำเนินคดีชาวเกรียน!  ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ เคลื่อนไหว ต้นสังกัด ‘ท็อป Lazyloxy’ เตรียมดำเนินคดีชาวเกรียน! 
  5. ก่อนคลิปว่อน!! ‘เบียร์ เดอะวอยซ์’ เคยโพสต์เป็นลางบางอย่าง

You may have missed

เสน่ห์ ‘ละคร’ ยุคเก่า ‘หนึ่งในร้อย’ ปลุกย้ำความทรงจำวันวาน

เสน่ห์ ‘ละคร’ ยุคเก่า ‘หนึ่งในร้อย’ ปลุกย้ำความทรงจำวันวาน

อยากทำอะไร ?? ใน “ฤดูหนาว”

อยากทำอะไร ?? ใน “ฤดูหนาว”

เมืองที่เป็นมิตรอันดับ 4 ของโลก ‘กรุงเทพมหานคร’ รู้สึกอย่างไร เมื่อต้องใช้ชีวิตที่นี่??

เมืองที่เป็นมิตรอันดับ 4 ของโลก ‘กรุงเทพมหานคร’ รู้สึกอย่างไร เมื่อต้องใช้ชีวิตที่นี่??

จะรู้สึกอย่างไร?? เมื่อได้สัมผัสพลังแห่งศรัทธา ‘ประเพณีไหลเรือไฟ’

จะรู้สึกอย่างไร?? เมื่อได้สัมผัสพลังแห่งศรัทธา ‘ประเพณีไหลเรือไฟ’

ติดต่อโฆษณา TOPPIC Time โทร. 064-562-4193 | DarkNews by AF themes.